นายศราวุธ เมนะเศวต ประธานคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม(ก.พ.ค.) ยืนยันมติ ก.พ.ค.ไม่มีเจตนาก้าวล่วงอำนาจในการแต่งตั้งของคณะรัฐมนตรี(ครม.) กรณีให้คืนตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองให้นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิพาณิชย์ เนื่องจากเป็นการวินิจฉัยที่ชี้ให้เห็นถึงการแต่งตั้งที่ไม่เป็นธรรมตามขั้นตอนการพิจารณาก่อนหน้าที่ ครม.จะมีการอนุมัติแต่งตั้ง
"ก.พ.ค.มิได้ก้าวล่วงอำนาจอำนาจดุลพินิจโดยแท้ของรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรี แต่ได้วินิจฉัยในส่วนของกระบวนการในการย้ายอธิบดีกรมการปกครอง" นายศราวุธ กล่าว
ทั้งนี้ ก.พ.ค.ขอย้ำจุดยืนว่า การมี ก.พ.ค.เพื่อคุ้มครองระบบคุณธรรมและคุ้มครองการทำงานระหว่างข้าราชการประจำกับฝ่ายการเมือง ซึ่งฝ่านการเมืองสามารถใช้อำนาจดุลพินิจโดยแท้ที่มีเหตุผล
ประธาน ก.พ.ค.ยังปฏิเสธกระแสข่าวที่วิจารณ์ถึงแนวปฏิบัติ 2 มาตรฐาน และเห็นว่ากระทรวงมหาดไทยสามารถดำเนินการตามมติ ก.พ.ค.ได้ในทันที โดยไม่จำเป็นต้องรอคำวินิจฉัยของศาลปกครองจากการที่นายมงคล สุระสัจจะ อธิบดีกรมการปกครอง ยื่นเรื่องขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวตามมติ ครม.
ทั้งนี้ ตนเองไม่ติดใจกรณีที่กระทรวงมหาดไทยไม่เร่งดำเนินการตามมติ ก.พ.ค. เนื่องจากต้องใช้เวลาในการดำเนินการ แต่หากครบกำหนด 60 วัน เป็นเรื่องที่ผู้เสียหายจะดำเนินการตามช่องทาง เช่น การยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง
ประธาน ก.พ.ค. ยืนยันว่า มติ ก.พ.ค.จะไม่ส่งผลต่อการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กรณีโครงการเช่าคอมพิวเตอร์ของกระทรวงมหาดไทย และการจัดทำบัตรสมาร์ทการ์ด พร้อมยืนยันว่า ไม่มีความจำเป็นต้องเชิญ ครม.เข้าให้ข้อมูลต่อ ก.พ.ค.เนื่องจากไม่ใช่คู่ขัดแย้ง
ประธาน ก.พ.ค.กล่าวว่า การที่ ก.พ.ค.มีมติไม่รับเรื่องร้องทุกข์ของนายมงคล สุระสัจจะ กรณีได้รับผลกระทบจากคำวินิจฉัยดังกล่าวนั้น นายมงคลสามารถไปใช้สิทธิ์ฟ้องต่อศาลปกครองได้ในฐานะผู้ได้รับผลกระทบจากคำวินิจฉัยดังกล่าว