Xinhua's Interview: ทูตอินโดนีเซียแนะไทย-กัมพูชาพิสูจน์คำมั่นแก้ข้อพิพาทอย่างสันติ

ข่าวต่างประเทศ Wednesday April 27, 2011 17:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เจ้าหน้าที่ของอินโดนีเซียได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวซินหัวในวันนี้ว่า ไทยและกัมพูชาจำเป็นต้องพิสูจน์ถึงคำมั่นที่เคยให้ไว้ในการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) และการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนที่อินโดนีเซียว่า จะระงับข้อพิพาทด้วยสันติวิธี

นายไมเคิล เทเน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของอินโดนีเซีย กล่าวว่า อินโดนีเซียสนับสนุนความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างสันติ อย่างไรก็ดี รัฐบาลของทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องมีเจตนารมณ์ทางการเมือง และอินโดนีเซียจะพยายามผลักดันต่อไป

เขากล่าวว่า อินโดนีเซีย ในฐานะที่เป็นประธานอาเซียนวาระปัจจุบันอยู่นั้น วิตกกังวลเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์สู้รบบริเวณชายแดนของสองประเทศ

"เราขอร้องซ้ำอีกครั้งให้ทั้งสองฝ่ายยุติการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์หรือปฏิบัติการทางหทาร และขอเรียกร้องให้การใช้กองกำลังเป็นไปอย่างสอดคล้องกับวิสัยทัศน์สู่การเป็นประชาคมอาเซียนภายในปี 2558 อินโดนีเซียขอเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายแสดงความกล้าหาญที่จะยุติการสู้รบในทันที" นายเทเนกล่าว

โฆษกฯกล่าวต่อไปว่า ในการประชุมเจบีซีที่เมืองโบกอร์ จังหวัดชวาตะวันตก เมื่อเพียงเกือบสองสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น กัมพูชาและไทยได้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นผ่านทางการทูต อย่างไรก็ตาม ประเด็นเหล่านี้มีความซับซ้อน "เราเชื่อว่าแนวทางการทูตจะต้องได้รับการผลักดัน" ซึ่งเขาเผยว่า จริงๆแล้วในช่วงต้นเดือนก.พ. การทูตระหว่างสองประเทศมีความคืบหน้าในระดับหนึ่ง และไม่มีท่าทีที่เป็นปฏิปักษ์เกิดขึ้น "ช่วงเวลานั้นถือว่าเราทำหน้าที่คนกลางได้อย่างประสบความสำเร็จ"

นายเทเนกล่าวว่า ปัญหาระหว่างสองประเทศไม่ควรจะเป็นอุปสรรคต่ออาเซียนในการบรรลุเป้าหมายสู่การเป็นประชาคมอาเซียนภายในปี 2558

"เราตระหนักดีว่ามีปัจจัยเสี่ยงต่อการบรรลุเป้าหมายในการเป็นประชาคมอาเซียน ซึ่งรวมถึงเรื่องหลักเขตแดน เขตไหล่ทวีป และเขตเศรษฐกิจจำเพาะ เนื่องจากเรายังไม่สามารถจัดการประเด็นเหล่านี้ได้ดี"

เขากล่าวว่า อย่างไรก็ดี ไม่ได้หมายความว่า ประเด็นเหล่านี้จะถูกใช้เป็นข้ออ้างเพื่อที่จะกลายเป็นศัตรูกัน

นายเทเนระบุว่า เราต้องแก้ปัญหาเหล่านี้ผ่านการเจรจา และอาเซียนจะต้องทำงานหนักเพื่อสร้างบรรยากาศที่มั่นคงและสันติ "เราจะไม่ทึกทักไปเองในเรื่องสันติภาพและความมั่นคง เพราะบรรยากาศเช่นกันไม่ได้มาง่ายๆ เราต้องทำงานหลายปีผ่านทางการทูตและการเจรจา ขอบคุณพระเจ้าที่ไม่เกิดความขัดแย้งมาเป็นเวลานานแล้ว"

เหตุปะทะบริเวณชายแดนใกล้กับปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายในพื้นที่พิพาทที่อยู่ติดกับจังหวัดสุรินทร์ในช่วงเช้าวันนี้นั้น นับเป็นการสู้รบติดต่อกันเป็นวันที่ 6 แล้วระหว่างไทยและกัมพูชา

การปะทะเป็นเวลา 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย. ทำให้ทหารของทั้งสองฝ่ายเสียชีวิต ขณะที่ไทยและกัมพูชาต่างกล่าวโทษซึ่งกันและกันว่าเป็นฝ่ายจุดชนวนความขัดแย้งบริเวณชายแดนรอบใหม่

โดย Cundoko Aprilianto สำนักข่าวซินหัว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ