เลือกตั้ง'54: พท.เสวนาออนไลน์แจงนโยบายศก.-"โอฬาร"แจงที่มางบลงทุน

ข่าวการเมือง Wednesday June 15, 2011 09:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายคณวัฒน์ วศินสังวรณ์ ทีมเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการจัดกิจกรรมเสวนาออนไลน์ เรื่อง “นโยบายคนรุ่นใหม่เพื่อไทย" วานนี้ว่า เป้าหมายในการเสวนาครั้งนี้เพื่อต้องการสื่อสารไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งนักเรียน นักศึกษาที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป กลุ่มนักธุรกิจ กลุ่มผู้บริหาร ซึ่งใช้เวลาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว เพื่อเป็นช่องทางในการเสนอนโยบายและเป็นการสื่อสาร 2 ทาง โดยมีผู้สนใจแชร์การถ่ายทอดสดกว่า 2 หมื่นคน

ทั้งนี้ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ประกอบด้วย นายโอฬาร ไชยประวัติ นายคณวัฒน์ วศินสังวรณ์ และนายวิรุฬ เตชะไพบูรณ์ เป็นผู้ตอบคำถาม โดยกิจกรรมนี้จะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะเปลี่ยนหัวข้อไปตามสถานการณ์ และมีการถ่ายทอดสดทางเว็บไซต์ ของพรรคเพื่อไทย

ด้านนายโอฬาร ไชยประวัติ ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ระบุว่า พรรคเพื่อไทยเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจใน 10 ปีข้างหน้าที่ไทยไม่เคยใช้มาก่อน ซึ่งจะใช้ทรัพยากรบุคคลที่ไม่ได้ใช้อย่างเต็มที่ให้มาใช้ความสามารถเต็มที่ โดยโครงการลงทุนพรรคเพื่อไทย จะนำมาจาก 1.งบประมาณรายจ่ายของรัฐไม่เกิน 40% 2. สินเชื่อจากการกู้ยืมเงินของภาคเอกชนประมาณ 45% 3. เงินลงทุนจากประชาชนผ่านตลาดหุ้น 15 %

“ในช่วง 5 ปี ข้างหน้า 2555-2559 อัตรา public debt to GDP จะลดลงต่ำกว่าปัจจุบันเพราะรายได้ประชาชาติ GDP จะเพิ่มในอัตราสูงกว่าอัตราเพิ่มของยอดหนี้สาธารณะจากนโยบายสร้างรายได้ประชาชาติของพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะเป็นเงินลงทุนร่วมจากภาคเอกชน”

นอกจากการปรับค่าจ้างขั้นต่ำแรงงานมีคุณภาพ 300 บาทต่อวันแล้ว ยังจะมีการปรับเงินเดือน ข้าราชการที่มีศักยภาพ และการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล การจัดนโยบายชุดนี้ นโยบายพรรคเพื่อไทยจะฝึกอบรม ให้คนงานและ ลูกจ้างมีความสามารถตามความต้องการของนายจ้าง เพื่อให้คนมีคุณภาพ และสร้างผลผลิตมากขึ้น ทำให้ธุรกิจมีกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น และการบวกนโยบายส่งเสริมการลงทุน จะทำให้ธุรกิจเอกชนขนาดเล็กและกลางจะเร่งลงทุน เนื่องจากต้นทุนที่ถูกลง

ในปี 55 จะมีคนมีงานทำทั้งเต็มเวลา และบางส่วนของเวลาประมาณจะมี 38 ล้านคน กระจายทั้งภาคเกษตร อุตสาหกรรม และบริการ ภาคเกษตร ซึ่งทำงานเพียง 7 เดือน ซึ่งเท่ากับเหลือเพียง 30 ล้านคนที่ทำงานเต็มเวลา 12 เดือน สำหรับพรรคเพื่อไทยจะมีการใช้จ่ายเงินตามโครงการจัดการน้ำ โดยจะสร้างงานเพิ่มเติมได้ปีละ 5-6 แสนคน จะเพิ่มในภาคเกษตรที่จะเติบโตสูงกว่าส่วนอื่น เช่น อาหารและพืชพลังงานทดแทน มันสำปะหลัง อ้อย

นายโอฬาร วิเคราะห์ว่า ในอนาคตอุตสาหกรรมที่มีความต้องการสูง เช่น ยานยนต์ อะไหล่ยนต์ และมีการย้ายฐานเทคโนโลยีมาไทย รวมถึงการบริการ เช่น การท่องเที่ยว ซึ่งไทยมีจุดเด่นอยู่แล้ว, การศึกษา การพัฒนาคุณภาพการศึกษา และทำให้คนมาเรียนที่ไทยมากขึ้น, การรักษาพยาบาล หมอไทยมีความชำนาญระดับโลก เช่น กรุงเทพ ภูเก็ต และเป็นทั้งการท่องเที่ยวและการรักษาตัว Medical tourism โดยพรรคจะสร้างงานอีก 5-6 แสนตำแหน่งต่อปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ