กก.ป้องกันราชอาณาจักรถกยูเนสโกพรุ่งนี้ จี้ถอนปราสาทพระวิหารจากมรดกโลก

ข่าวการเมือง Thursday June 16, 2011 15:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้(17 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. กลุ่มพันธมิตรฯ จะเดินทางไปที่สำนักงานยูเนสโก หลังจากที่ยูเนสโกได้อนุญาตให้ตัวแทนคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักร 7 คนเข้าไปเจรจาหารือ จากนั้นเวลา 11.00 น. จะออกเดินทางจากสำนักงานยูเนสโก ไปที่ถนนสุขุมวิทจนถึงสี่แยกราชประสงค์ก่อนแยกย้ายกันกลับ

สำหรับประเด็นที่กลุ่มพันธมิตรฯ จะเข้าไปหารือนั้นจะดูว่ามีใครเข้าไปพูดคุยบ้างเพื่อให้เป็นประโยชน์มากที่สุดต่อประเทศชาติ โดยเป็นการยื่นหนังสือแสดงเจตนารมย์คัดค้านและถอนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารออกจากมรดกโลก เนื่องจากเป็นการทำลายกฏของยูเนสโกและละเมิดมติมรดกโลก ซึ่งจะต้องถอนวาระดังกล่าวออกจากบัญชีมรดกโลก โดยที่ไม่ปล่อยให้ปราสาทพระวิหารตกเป็นมรดกโลกของฝ่ายกัมพูชา

พร้อมกันนี้ เพื่อไปตอกย้ำว่ายูเนสโกกำลังทำความผิดในกติกาของตัวเองเพื่อทำลายสันติภาพในภูมิภาค โดยจะนำเอกสารหลักฐานและข้อมูลเพื่อยืนยันว่าคณะกรรมการมรดกโลกก็ทำผิดต่อมติของตัวเองด้วย เป็นการไม่รักษากฏเกณฑ์ ไม่เคารพอธิปไตยของไทย อย่างน้อยก็เป็นการแสดงเจตนารมย์ของภาคประชาชน และส่งสารเพื่อให้เปลี่ยนท่าทีดังกล่าว

นายปานเทพ แสดงความเป็นห่วงต่อกรณีล่าสุดถึงความหละหลวมของรัฐบาลที่ปล่อยให้สายลับชาวกัมพูชาหนีไปได้ ทั้งที่เป็นเรื่องที่น่าประหลาดมาก ท่ามกลางสถานการณ์ที่แม้แต่เรือนจำในประเทศไทยไม่มีนักโทษคนไหนหลุดออกจากเรือนจำได้เพราะมีการคุ้มกันอย่างดี

"เป็นเรื่องแปลกทั้งๆ ที่เป็นเรื่องความสำคัญแต่กลับปล่อยให้หนีไปได้ ถือเป็นความบกพร่องอย่างมาก จะต้องหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้ แม้แต่นายวีระ สมความคิด อยู่ในเรือนจำประเทศกัมพูชาซึ่งมีสภาพที่แย่กว่า ก็ยังไม่สามารถหลบหนีมาได้ แต่ทำไมสายลับกัมพูชาถึงสามารถหลบหนีไปได้" นายปานเทพ กล่าว

ด้าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า การไปยูเนสโกเพื่อยื่นหนังสือ โดยเหตุผลต่างๆ ได้อยู่ในหนังสือหมดแล้ว ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะมีลายลักษณ์อักษรชัดเจน ทั้งนี้เจตนาคือต้องการจัดผู้แทนไปมอบหนังสือและไปพูดคุยกับยูเนสโกประจำประเทศไทย ซึ่งต่างกับที่รัฐบาลจะขอเลื่อนการประชุม แต่ของภาคประชาชนจะให้ถอนออกจากวาระเลย ถ้าเลื่อนไปก็จะเป็นปัญหาต่อๆ ไป ซึ่งเมื่อปีที่แล้วเลื่อนมารัฐบาลก็ไม่ได้ทำอะไร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ