นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) แถลงถึงกรณีที่นายแก้วสรร อติโพธิ ผู้ก่อตั้งเครือข่ายพลเมืองคัดค้านนิรโทษกรรมคอรัปชั่นทักษิณ(คนท.) และนพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี ได้ยื่นเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) สอบน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับ 1 พรรคเพื่อไทย ในกรณีคดีซุกหุ้นชินคอร์ปฯว่า คณะทำงานด้านกฎหมายพรรคเพื่อไทยเชื่อว่าการกระทำของบุคคลทั้ง 2 คนมีจุดมุ่งหมายคือ 1.มีเจตนาแอบแฝงซ่อนเร้นเพื่อจะให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจผิดในคะแนนนิยมของน.ส.ยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทย
2.เรื่องที่กล่าวหาไม่เป็นความจริงทั้งองค์ประกอบในข้อกฎหมายและในข้อเท็จจริง มีคำพิพากษาฎีกาที่ 1862/2511 และฎีกาที่ 2394/2527 วินิจฉัยไว้ในทำนองเดียวกันว่ากรณีที่ศาลวินิจฉัยว่าควรฟังพยานฝ่ายใดและพิพากษาให้ชนะคดีแล้วนั้น ยังไม่เป็นเหตุพอที่จะถือว่าฝ่ายผู้แพ้คดีมีเจตนาเบิกความเท็จในการพิจารณาคดีนั้นๆ เสมอไป
3.มีข้อพิรุธและสงสัยว่าเรื่องนี้น่าจะเบื้องหลัง เพราะภายหลังจากที่บุคคลทั้ง 2 ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)แล้วในวันดังกล่าวพบนายแก้วสรรกับพวกและนั่งรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับนายตำรวจยศพันตำรวจเอก สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ช่วยตรวจสอบนายตำรวจยศพันตำรวจเอกคนดังกล่าวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ พรรคจะยื่นเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบอีกทางหนึ่งด้วย
ส่วนกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นเรื่องต่อ กกต.ให้ยุบพรรคเพื่อไทย เหตุเพราะพรรคเพื่อไทยอยู่ภายใต้อิทธิพลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น นายพร้อมพงศ์ ย้อนถามว่า นายสนธิไปหลับอยู่ที่ไหนในช่วงที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จัดตั้งรัฐบาลกับพรรคร่วมรัฐบาล เหตุใดนายสนธิจึงไม่ไปร้องให้ยุบพรรคร่วมรัฐบาลบ้าง
การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ คิดและเสนอความเห็นให้พรรคการเมืองนั้นสามารถทำได้ แต่เรื่องการจัดทำนโยบายนั้นเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่จะดำเนินการ อีกทั้งกกต.เองก็เคยวินิจฉัยไว้ว่า หากไม่ขึ้นเวทีปราศรัยหรือทำตัวเป็นกรรมการบริหารพรรคก็ไม่มีความผิดอีกด้วย
โฆษกพรรคเพื่อไทย ยังเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งเอาจริงเอาจังกับการจับกุมกลุ่มคนที่แจกซีดีที่มีภาพและข้อความให้ร้ายพ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย อีกทั้งทราบมาว่ามีการจัดทำซีดีดังกล่าวถึง 5 ล้านแผ่น คิดเป็นมูลค่าในการจัดทำถึง 50 ล้านบาท โดยเชื่อว่าจะมีกลุ่มการเมืองหนุนหลังบุคคลกลุ่มนี้ และถือว่าเป็นการเล่นการเมืองที่สกปรก