น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะทำงานยกร่างนโยบายหาเสียงพรรคเพื่อไทยและคีย์แมนของพรรคเพื่อไทยเพื่อหารือแผนการปฏิบัติงานตามนโยบายที่หาเสียงไว้หลังพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล โดยครั้งนี้มีผู้บริหารระดับสูงของหลายหน่วยงานได้เข้าร่วมประชุม เช่น นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) เข้าร่วมประชุม
สำหรับการจัดทำนโยบายของรัฐบาลนั้น แบ่งออกเป็น 5 ด้าน ประกอบด้วย ภารกิจเร่งด่วนของรัฐบาล 7 เรื่อง นโยบายด้านเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง และนโยบายด้านการต่างประเทศ
ทั้งนี้ คณะกรรมการจัดทำร่างนโยบายในแต่ละด้านจะร่างนโยบาย/แผนงานหลายรูปแบบเพื่อให้สอดรับกับสภาพเศรษฐกิจในภาวะการณ์นั้น ๆ และจะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการจัดทำร่างนโยบายชุดใหญ่วันพรุ่งนี้ (12 ก.ค.) รวมทั้งแนวทางการดำเนินงานของรัฐบาล เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวทั้งหมด
ด้านนายประภัสร์ จงสงวน ว่าที่ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และอดีตผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) หนึ่งในทีมนโยบายการหาเสียงด้านคมนาคม ยืนยันว่า นโยบายที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้ทุกเรื่องสามารถปฏิบัติได้ไม่มีปัญหา โดยเฉพาะโครงการเมกะโปรเจกต์ด้านคมนาคม ทั้งการขยายเชื่อมต่อสถานีแอร์พอตลิงค์ไปยังจุดต่างๆ รวมถึงพัฒนาพื้นที่การใช้สอยของสถานีรถไฟฟ้า ส่วนเรื่องรถไฟฟ้าใต้ดินราคาเดียว 20 บาทตลอดสาย และการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าอีก 10 สายนั้น ยืนยันว่าทำได้แน่นอน
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายแสดงความเป็นห่วงต่อนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่มองว่าเป็นนโยบายประชานิยม ซึ่งจะทำให้มีปัญหาด้านการใช้เงินงบประมาณนั้น นายประภัสร์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาแน่นอน เพราะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 10 สายก็ไม่ได้ทำพร้อมกันทีเดียวทั้งหมด แต่ค่อยๆ ทำทีละโครงการ และยิ่งสถานการณ์การเมืองมั่นคง รัฐบาลสร้างความเชื่อมั่นกับต่างประเทศได้ จะทำให้ต่างชาติพร้อมเข้ามาลงทุน
อย่างไรก็ดี ยืนยันว่า นโยบายเร่งด่วนอันดับแรกที่พรรคเพื่อไทยจะทำหลังจากได้เข้ามาเป็นรัฐบาลแล้ว คือการแก้ปัญหาค่าครองชีพ และสินค้าราคาแพง
ส่วนในวันพรุ่งนี้(12 ก.ค.) พรรคเพื่อไทยจะเชิญตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ มาร่วมหารือถึงการผลักดันนโยบายของพรรคเพื่อไทยในนโยบายด้านพลังงาน หลังจากพรรคเพื่อไทยมีแนวคิดจะยกเลิกการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นการชั่วคราว รวมทั้งหารือเรื่องปัญหาราคาสินค้า ซึ่งพรุ่งนี้จะมีตัวแทนจากกระทรวงพลังงานและกระทรวงพานิชย์เข้าร่วมประชุม
นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยได้เลื่อนการประชุมส.ส.จากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 12 ก.ค. ออกไปเป็นสัปดาห์หน้า เพื่อให้มีการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ครบเสียก่อน รวมถึงให้ส.ส.ที่ได้รับการรับรองจาก กกต. ไปรายงานตัวต่อสภาให้เรียบร้อยก่อน