นักวิชาการมองการเมืองไม่พลิกขั้ว แม้กกต.แขวน"ยิ่งลักษณ์-อภิสิทธิ์"

ข่าวการเมือง Wednesday July 13, 2011 11:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิชาการเชื่อ กกต.ประกาศรับรองผลเลือกตั้ง ส.ส.จะไม่พลิกล็อคถึงขั้นทำพรรคเพื่อไทยวืดเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เหตุ กกต.ไม่กล้าหาญพอจะเอาตัวลงไปเล่นเกมการเมืองมากขนาดนั้น ชี้ทางเดียวคือต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าการเลือกตั้ง 3 ก.ค.54 เป็นโมฆะ การเมืองไทยจึงจะมีสิทธิพลิกขั้ว

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและติดตามนโยบายภาครัฐ มหาวิทยาลัยศรีปทุม และกรรมการมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย(พีเน็ต) เชื่อว่า การประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ในรอบแรกที่ยังไม่มีรายชื่อคนสำคัญทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตลอดจนแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)นั้น จะไม่ส่งผลให้สถานการณ์ทางการเมืองเกิดการพลิกผันจนถึงขั้นจะทำให้พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล

“ผมไม่เชื่อว่า กกต.จะประกาศรับรอง ส.ส.ในจำนวนที่ทำให้ประชาธิปัตย์กลับมาเป็นฝ่ายนำ เพราะคงจะเป็นการกล้าหาญชาญชัยเกินไปถ้าจะสอย ส.ส.พรรคเพื่อไทยจนไม่สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้" นายสมชัย กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"

พร้อมเห็นว่า น่าจะเป็นเพียงแค่การไม่ประกาศรับรองเบื้องต้นในกลุ่มแรก และทำให้ประชาชนเห็นว่า กกต.มีวิจารณญาณในการประกาศรับรองใครหรือไม่รับรองใคร ซึ่งไม่ใช่ว่าเลือกตั้งแล้วจะประกาศรับรองไปทั้งหมด เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นภาพลักษณ์ของ กกต.จะดูไม่ดี แต่ท้ายสุดเชื่อว่า กกต.จะประกาศรับรองรายชื่อ ส.ส.ได้ไม่น้อยกว่า 95% จากจำนวน ส.ส.ในสภาฯ ทั้งหมด 500 คน จนทำให้สามารถเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ทันตามที่กฎหมายกำหนดคือภายในวันที่ 3 ส.ค.54

นายสมชัย มองว่า สถานการณ์ที่อาจจะมีความเป็นไปได้มากที่สุดในการพลิกผันการเมืองจนทำให้พรรคเพื่อไทยไม่สามารถเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้ คือ ถ้ามีการร้องเรียนให้การเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค.54 เป็นโมฆะ ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้

โดยประเด็นนี้มีความเป็นไปได้มากกว่าในการจะพลิกสถานการณ์การเมือง ด้วยการสะท้อนการจัดการเลือกตั้งของกกต.ที่ไม่สามารถทำให้เกิดความบริสุทธิ์เที่ยงธรรมได้ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งที่มีเรื่องร้องเรียนทุจริตจำนวนมาก แต่กกต.ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ เช่น การให้ใบแดงก่อนการเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่มีหลักฐานชัดเจนในการกระทำผิด หรือความคลาดเคลื่อนของจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ ที่มีความแตกต่างกันถึง 83,000 คน

"หากประเด็นนี้ถูกหยิบยกขึ้นสู่หน่วยงานที่ตัดสิน เช่น ผู้ตรวจการแผ่นดิน หยิบเรื่องนี้ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ จนทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะได้ ก็ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ ทุกฝ่ายก็ต้องไปต่อสู้กันอีกที คุณอภิสิทธิ์ อาจเป็นรัฐบาลรักษาการณ์ต่อ แนวทางนี้มีสิทธิเป็นไปได้มากกว่าที่ กกต.จะไปพลิกการประกาศผลรับรอง ส.ส.จนทำให้พรรคเพื่อไทยมีจำนวน ส.ส.น้อยกว่าประชาธิปัตย์ ซึ่งไม่น่าเป็นได้" นายสมชัย กล่าว

ทั้งนี้เห็นว่าแค่เรื่องจำนวนบัตรคลาดเคลื่อนก็มีน้ำหนักเพียงพอที่จะใช้ร้องเรียนและเป็นเหตุผลให้นำไปสู่การเลือกตั้งอันเป็นโมฆะได้ ซึ่ง กกต.ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าดำเนินการจัดการเลือกตั้งอย่างไรให้บัตรเลือกตั้งลักลั่นกันอยู่ถึง 83,000 ใบ เพราะแม้ในมุมของเลขาธิการ กกต.จะออกมาชี้แจงแล้วว่าเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งได้บันทึกตัวเลขคลาดเคลื่อน แต่เมื่อตรวจสอบแล้วรายชื่อต่างกันเพียงร้อยกว่าคน ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อการประกาศรับรองรายชื่อ ส.ส.ทั่วประเทศก็ตาม แต่นายสมชัย กลับมองว่า หากคะแนนที่หายไปกว่า 83,000 คะแนนนี้ ถ้าคะแนนที่หายไปดังกล่าวไปกระจายอยู่ในทุกเขตเลือกตั้งโดยเฉพาะเขตเลือกตั้งที่มีผลคะแนนสูสีกันระหว่างพรรคใหญ่ 2 พรรคนั้น ก็อาจจะส่งผลให้เกิดการพลิกผันของผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตได้ทันที

"เขตที่คะแนนทิ้งกันไม่เกิน 3,000 คะแนน มี 51 เขต ส่วนเขตที่คะแนนทิ้งกันไม่เกิน 5,000 คะแนน มี 78 เขต ดังนั้นคะแนน 83,000 คะแนนที่เคยบอกว่าหายไปในช่วงแรกนั้น มันหายไปอยู่ไหน ถ้ากระจายหายไปตามเขตต่างๆ มันก็จะทำให้การเลือกตั้ง ส.ส.เปลี่ยนแปลงไปถึง 78 เขต" นายสมชัย กล่าว

พร้อมมองว่า ขณะนี้ยังไม่มีกลไกการตรวจพิสูจน์ 83,000 คะแนนดังกล่าว ซึ่งจุดนี้สามารถตั้งเป็นข้อสงสัยที่มีต่อการจัดการเลือกตั้งของ กกต.ได้ และ กกต.ควรจะต้องรับผิดชอบ หากท้ายสุดการเลือกตั้งมีปัญหาจนส่งผลให้เกิดเป็นโมฆะ เพราะต้องใช้งบประมาณของประเทศในการจัดการเลือกตั้งต่อครั้งสูงถึง 4,000 ล้านบาท ส่วนกลุ่มเสื้อแดงจะยอมรับได้หรือไม่ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีปัญหานั้นก็สุดแล้วแต่

"ในเรื่องการซื้อเสียงนั้น พรรคเพื่อไทยเองก็บอกว่ามีการซื้อเสียงเต็มไปหมด เขาก็มาร้องเรียนว่าซื้อเสียงรุนแรง ซึ่งภาพการเลือกตั้งที่มีปัญหานี้ เราจะยอมให้ผลการเลือกตั้งประกาศออกไปหรือเปล่า เป็นประเด็นที่ กกต.ต้องพิจารณา" นายสมชัย กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ