นายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ ส.ส. เขต 01จ.ยะลา พร้อมด้วยนายอับดุลการิม เด็งระกีนา ว่าที่ส.ส. จ.ยะลา เขต 02 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)มีมติ 3ต่อ 2 ประกาศให้มีการนับคะแนนใหม่ในเขตของนายอับดุลการิมใหม่ในวันที่ 31 ก.ค.ว่า ไม่ทราบเหตุที่แท้จริง ของกกต.ในการที่ให้นับให้คะแนนใหม่คืออะไร เนื่องจากเพราะในขณะนี้ยังไม่มีเหตุผลที่จะต้องนับคะแนนใหม่ และอยากให้กกต.พูดให้ชัดเจน ไม่อย่างงั้นจะไม่มีมาตรฐานและเหตุผลต้องรองรับด้วยข้อกฎหมายของ กกต.
นายอับดุลการิมมีคะแนนชนะนายซูการ์โน มะทา ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยเพียง 33 คะแนน และมีบัตรเสีย 9,733 ใบ
ในอดีตกรณีของน.ส.ปรีชญา ขำเจริญ อดีตส.ส. จ.ราชบุรีพรรคประชาธิปัตย์ ครั้งนั้นชนะคู่แข่งเพียง 47 คะแนน กรณีดังกล่าวไม่ได้มีการนับคะแนนใหม่แต่อย่างใด
ทั้งนี้ หากให้เหตุผลว่าผู้สมัครมีการทุจริตพวกตนก็รับได้และยินให้ตรวจสอบ
ส่วนกรณีที่ กกต.อ้างว่ามีบัตรเสียถึง 9,000 ใบนั้น ข้อเท็จจริงคือในพื้นที่ จ.ยะลา ที่เหลืออีก 2 เขต ทั้งเขต 1 และเขต 3 มีบัตรเสีย 6,636 ใบ และ 9,036 ใบ เพราะฉะนั้นการที่เขต 2 มีบัตร 9,000 กว่าใบก็น่าจะไม่ใช่เหตุผลในการนับคะแนนใหม่
"อยากให้กกต.พูดให้ชัดเพราะมีประชาชนถามเข้ามาจำนวนมากและมีทุจริตขึ้นหรือไม่ เพราะอาจจะทำให้ผู้สมัครเสียหายได้ และอยากตั้งข้อสังเกตอีกข้อว่าถ้าหากมีการนับคะแนนใหม่ถ้าเกิดผลต่างขึ้นมาและมีคนร้อง กกต.จะทำอย่างไรต่อ โดยก่อนหน้านี้ กกต.จ.ยะลาก็เคยเชิญนายอับดุลการิมไปให้ปากคำกรณีดังกรณีดังกล่าวและถามนายอับดุลการิมว่าจะอนุญาตเห็นชอบให้มีการนับคะแนนใหม่หรือไม่ นายอับดุลการิม ตอบว่าจะนับคะแนนใหม่ทำไมเพราะไม่ได้มีการทุจริตและหลังจากนั้นเรื่องก็ผ่านไปและผู้สมัครก็ไม่ได้ร้องคัดค้านว่ามีบัตรเสียมากหรือมีการทุจริตแต่อย่างใด จนเมื่อวาน กกต.กลับมีมติ 3 ต่อ 2 ให้มีการนับคะแนน"นายประเสริฐ กล่าว
นายประเสริฐ กล่าวว่า ที่พวกตนคัดค้านการนับใหม่ครั้งนี้ ไม่ได้กลัวว่าเมื่อนับใหม่แล้วจะแพ้ แต่ตั้งข้อสงสัยว่าหากคะแนนคลาดเคลื่อนกับครั้งแรกอีก กกต.จะรับผิดชอบอย่างไร