ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเช้านี้ ลงมติเลือกน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ อันดับ 1 พรรคเพื่อไทย(พท.) เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 28 ของประเทศไทย และถือเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย โดยที่ประชุมสภาฯ ลงมติเห็นชอบให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยคะแนน 296 เสียง ไม่เห็นด้วย 3 เสียง และงดออกเสียง 197 เสียง จากจำนวน ส.ส.ที่มาลงชื่อใช้สิทธิออกเสียง 458 คน จากทั้งหมด 500 คน
"ที่ประชุมเห็นชอบ 296 ไม่เห็นชอบ 3 และงดออกเสียง 197 เป็นอันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่ง ที่ประชุมเห็นชอบให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรี" นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประกาศผลการนับคะแนนในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี จากนั้นจึงได้กล่าวปิดประชุม
สำหรับประวัติของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เกิดเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2510 เป็นบุตรสุดท้องคนที่ 10 ของนายเลิศ อดีตส.ส.เชียงใหม่ กับ นางยินดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ สมรสแล้วกับนายอนุสรณ์ อมรฉัตร อดีตผู้บริหารในเครือบริษัท ซีพี และกรรมการผู้อำนวยการบริษัท เอ็ม ลิงก์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด มีบุตรชาย 1 คน คือ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปค์
ประวัติการศึกษา สำเร็จปริญญาตรีจากคณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ และจบปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตร์ มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเคนตักกี้สเตท สหรัฐอเมริกา โดยตำแหน่งสุดท้ายก่อนจะมาลงเล่นการเมือง คือ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น(SC) รวมทั้งเป็นกรรมการและเลขาธิการมูลนิธิไทยคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศก่อนเข้าสู่วาระการเลือกนายกรัฐมนตรีเกิดความวุ่นวายเล็กน้อย จากที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย ได้ลุกขึ้นขอหารือกับประธานสภาฯ เรื่องตำแหน่งที่นั่งในห้องประชุม พร้อมกับมอบค้อนผูกโบว์สีแดงให้แก่ประธานสภาฯ
ทั้งนี้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ ได้ขอให้มีการหารือเรื่องนี้ในภายหลังเพราะต้องการนำเข้าสู่ระเบียบวาระการเลือกนายกรัฐมนตรี แต่นายชูวิทย์ ไม่ยอมและพยายามจะขอหารือในที่ประชุมขณะนั้น และมีการโต้เถียงกันเล็กน้อย จนสุดท้ายประธานสภาฯต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเชิญตัวนายชูวิทย์ ออกจากห้องประชุมไป
อย่างไรก็ดี ประธานสภาฯ ได้ให้สิทธินายชูวิทย์ กลับเข้ามายังห้องประชุมเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายชูวิทย์ ได้ใช้สิทธิด้วยการงดออกเสียง