น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าจะนำร่างนโยบายรัฐบาลที่จะเสนอต่อสภาฯ เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ (16 ส.ค.) ซึ่งหากไม่มีประเด็นใดต้องแก้ไขก็จะนำเรื่องส่งไปยังรัฐสภา เพื่อนัดวันแถลงนโยบายรัฐบาลต่อไป ซึ่งในภาพรวมทั้งหมดขณะนี้ถือว่าใกล้เสร็จแล้ว
สำหรับการดูแลงานด้านความมั่นคง และด้านต่างประเทศจะเป็นรับผิดชอบเองหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวเพียงว่า คงต้องขอดูก่อน
ส่วนแนวทางการสร้างความสัมพันธ์กับต่างประเทศนั้น นายกรัฐมนตรีมองว่า การสร้างความสัมพันธ์กับกัมพูชาจะเน้นใช้แนวทางด้านการทูตมากกว่าจะอาศัยความสัมพันธ์ในอดีตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เคยเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจให้กับสมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา
"ใช้ลักษณะการเจรจาเชิงทางการทูต เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากกว่า" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
นายกฯ ยืนยันว่าจะดูแลรักษาอธิปไตยของประเทศไทยอย่างเต็มที่ โดยจะทำทุกอย่างไม่ให้เกิดความสูญเสีย ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาคือจะใช้การเจรจาทางการทูต คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ และอีกด้านหนึ่งการส่งเสริมการค้าตามแนวชายแดน
สำหรับกรณีจะสานนโยบายต่อจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมาหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องหารือกับทางกระทรวงการต่างประเทศก่อน
ส่วนกรณีผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน(โพลล์) ที่ออกมาว่า รมว.ต่างประเทศที่ได้รับความไว้วางใจน้อยที่สุดนั้น นายกฯ กล่าวว่า อยากให้ดูที่ความตั้งใจและผลงาน ซึ่งผลโพลล์ที่ออกมาถือว่าเป็นคำแนะนำ หรือเป็น Feedback ของประชาชน ซึ่งสามารถนำไปปรับปรุงในการทำงานต่อไป โดยยืนยันว่า ตำแหน่งรมว.ต่างประเทศ จำเป็นต้องใช้เวลาพิสูน์การทำงานสักระยะหนึ่งก่อน ส่วนจุดเด่นของ รมว.ต่างประเทศคือการทุ่มเทในการทำงาน รวมถึงเคยผ่านงานในบริษัทเอกชน ซึ่งมีความเข้าใจเรื่องการค้ากับต่างประเทศเป็นอย่างดี
ผู้สื่อข่าว รายงานบรรยากาศการในช่วงเช้าที่นายกฯ ทำพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบฯ โดยนายกฯ กล่าวว่า รู้สึกมีกำลังใจที่ดีที่ได้มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และถือเป็นสิริมงคลแก่ตนเองในการเริ่มต้นการทำงาน ทั้งนี้ รู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจที่ได้ทำงานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยยืนยันจะทำหน้าที่ให้สมกับที่ประชาชนไว้วางใจ
สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าแนวทางการแก้ไขปัญหาต้องแบ่งเป็น 2 ระยะย คือ ระยะเร่งด่วน และ ระยะยาว ระยะเร่งด่วน คือ จะต้องเร่งบรรเทาผลกระทบจากภัยน้ำท่วม รวมถึงการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบหรือบาดเจ็บ รวมถึงต้องเร่งสำรวจความเสียหายภาคการเกษตร
ส่วนการแก้ปัญหาในระยะยาวต้องมาพูดคุยเรื่องการสร้างระบบชลประทานให้เป็นระบบ รวมทั้งการจัดสรรงบประมาณให้ตรงกับวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง
ส่วนเรื่องเขื่อนแก่งเสือเต้น ต้องหาจุดรับน้ำที่ชัดเจน เพื่อบรรเทาปัญหาที่จะมีการระบายน้ำไปยังบจุดต่างๆ ซึ่งแต่ละจังหวัดก็จำเป็นต้องมีการบูรณาการการแก้ไขปัญหาด้วย
นายกฯ กยังกล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ระบุว่าได้มีการหารือถึงการจ่ายเงินเยียวยาให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตในการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงครอบครัวละ 10 ล้านบาทนั้นว่า เรื่องนี้เป็นการหารือกันในเชิงนโยบาย แต่ในรายละเอียดตัวเลขที่จะนำมาใช้ ต้องไปดูในส่วนของงบประมาณและความเหมาะสมก่อน