รัฐบาลเสนอ 8 ร่างนโยบาย แบ่งเป็นระยะเร่งด่วน-ระยะยาว

ข่าวการเมือง Tuesday August 16, 2011 09:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย ระบุว่า นโยบายรัฐบาลที่จะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเพื่อให้รัฐบาลแถลงต่อสภาผู้แทนราษฎรจัดทำเป็นเอกสารจำนวน 34 หน้า โดยทุกหน้าประทับคำว่า“ร่างนโยบายรัฐบาล ยังไม่เปิดเผย" โดยแบ่งเป็นทั้งหมด 8 หัวข้อคือ

1.นโยบายเร่งด่วนที่จะเริ่มทำในปีแรก แบ่งเป็น 1.1 คือสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย

1.1.1 คือสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย โดยการเสริมสร้างความเข้าใจร่วมกันของประชาชนในชาติให้เกิดความสมัครสมานสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

1.1.2 เยียวยาและฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องแก่บุคคลทุกแก่บุคคลทุกฝ่าย เช่น ประชาชน เจ้าหน้าที่รัฐและผู้ประกอบการภาคเอกชน ซึ่งได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากควาขัดแย้งทางความคิด ทางการเมืองและความรุนแรงที่ก่อตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายของการใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540

1.1.3 สนับสนุนให้คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อแนวทางปรองดองแห่งชาติ(คอป.) ดำเนินการอย่างอิสระและได้รับควาร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ในการตรวจสอบหาความจริงกรณีความรุนแรงทางการเมือง การละเมิดสิทธิมนุษยชน การสูญเสียชีวิต บาดเจ็บทางร่างกายและจิตใจ ความเสียหายทางทรัพย์สิน

1.2 กำหนดให้การแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ

1.3 ป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นในภาครัฐอย่างจริงจัง

1.4 เร่งแก้ไขปัญหาความไม่สงบและนำสันติสุขกลับสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็ว

1.5 เร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและนานาประเทศ

1.6 แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันเชื้อเพลิง

1.7 ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ประกอบด้วย พักหนี้ครัวเรือนของเกษตรกรรายย่อยและผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้ต่ำกว่า 5 แสนบาท อย่างน้อย 3 ปี และปรับโครงสร้างหนี้สำหรับผู้ที่มีหนี้เกิน 5 แสนบาท, เพิ่มรายได้รายวันสำหรับแรงงานเป็นวันละ 300 บาท และรายเดือนของผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีเป็น 15,000 บาท, จัดให้มีเบี้ยยังชีพรายเดือนแบบขั้นบันไดสำหรับผู้สูงอายุ, ให้มีมาตรการภาษีเพื่อลดภาระการลงทุนสำหรับสิ่งจำเป็นในชีวิตของประชาชนทั่วไป ได้แก่บ้านหลังแรก

1.8 ปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลให้เหลือร้อยละ 23 ในปี 55 และลดลงร้อยละ 20 ในปี 56 เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชน ขยายฐานภาษีและรองรับเข้าสู่การเป็นประชาคาอาเซียนในปี 58

1.9 ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนสนับสนุนสินเชื่อรายย่อย ประกอบด้วย เพิ่มกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง 1 ล้านบาท, จัดตั้งกองทุนพัฒนาศักยภาพสตรีเฉลี่ยจังหวัดละ 100 ล้านบาท, จัดตั้งกงอทุนตั้งตัวได้วงเงินประมาณ 1 พันล้านต่อสถาบันอุดมศึกษา

1.10 ยกระดับสินค้าการเกษตรและให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยให้มีการประกันภัยพืชผลและนำระบบรับจำนำสินค้าการเกษตรมาใช้ รวมถึงการออกบัตรเครดิตสำหรับเกษตรกร

1.11 ส่งเสริมให้มีการจัดการน้ำอย่างบูรณาการด้วยการสร้างระบบชลประทานขนาดใหญ่ กลาง เล็ก

1.12 เร่งเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวโดยได้ปี 54-55 เป็นปีมหัศจรรย์ไทยแลนด์ (มิราเคิล ไทยแลนด์ เยียร์) และประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวร่วมเฉลิมฉลองในพระราชพิธีมหามงคลในช่วงปี 54-55

1.13 สนับสนุนงานศิลปหัตถกรรมเพื่อสร้างเอกลักษณ์และผลิตสินค้าในท้องถิ่น ประกอบด้วย สนับสนุนมูลนิธิส่งเสริมศิลปชีพ, บริหารโครงการหนึ่งตำบลหนึ่ผลิตภัณฑ์ให้มีศักยภาพ

1.14 พัฒนาระบบประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค

1.15 จัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์แทปเล็ตให้โรงเรียน โดยเริ่มทดลองดำเนินการในโรงเรียนนำร่อง สำหรับระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 54 ควบคู่กับการพัฒนาเนื้อหาที่เหมาะสมตามหลักสูตรบรรจุลงในแทปเล็ต รวมถึงทำอินเตอร์เน็ตไร้สายในระดับการให้บริหารและในพื้นที่สาธารณะ รวมถึงสถานศึกษาที่กำหนดฟรี

1.16 เร่งรัดและผลักดันการปฏิรูปการเมือง ที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขว้าง โดยมีสภาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยให้ประชาชนเห็นชอบโดยการออกเสียงประชามติ

ส่วนนโยบายที่เหลือ คือ 2.นโยบายความมั่นคงแห่งรัฐ เช่น เทิดทูนและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์, 3.พัฒนาและเสริมสร้างระบบป้องกันประเทศของกองทัพให้มีความมั่นคง,4.นโยบายเศรษฐกิจ , 5.นโยบายคุณภาพชีวิต , 6.นโยบายที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม , 7.นโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัย และนวัตกรรม นโยบายการต่างประเทศและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ, 8.นโยบายการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี

รายงานข่าวระบุว่า นโยบายของรัฐบาลกำหนดส่วนนโยบายความมั่นคงแห่งรัฐมีเรื่องการเทิดทูนและพิทักษ์รักษาซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ ดำรงรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งมหากษัตริย์ โดยการเสริมสร้างจิตสำนึกประชาชนในชาติให้มีความจงรักภักดีต่อสถาบัน โดยการเชิดชูปกป้อง มิให้ผู้ใดล่วงละเมิดได้ รวมถึงป้องกันไม่ให้มีการสำเอาสถาบันมาใช้อ้างเพื่อผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม หรือเพื่อแบ่งแยกความจงรักภักดีของประชาชน อีกทั้งส่งเสริมเผยแพร่โครงการพระราชดำริเพื่อให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้สามัคคี และดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง นอกจากนี้ต้องพัฒนาและเสริมสร้างระบบป้องกันประเทศของกองทัพให้มีความมั่นคง รวมถึงเสริมสร้างความสามัคคีปรองดองของคนชาติ

ในการประชุมยกร่างนโยบายใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง นโยบายที่อภิปรายกันมากที่สุดเป็นเรื่องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน โดยเฉพาะการพิจารณาถ้อยคำว่าจะเขียนอย่างไรไม่ให้ผูกพันรัฐบาล เพราะเกรงว่าจะทำไม่ได้ แต่ต้องทำให้เห็นว่ารัฐบาลทำจริง

ทั้งนี้ นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน กล่าวในที่ประชุมว่า นโยบายเรื่องนี้มีความหนักใจ ถ้าหากรัฐบาลทำไม่ได้และมีแรงต้านจากผู้ประกอบการจะมีปัญหาในทางปฏิบัติ ทำให้นายจาตุรนต์ ฉายแสง หนึ่งในแกนนำคนสำคัญ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่หาเสียงเอาไว้แล้วถือเป็นเรื่องสำคัญและจริงๆแล้วแรงงานมีฝีมื่อหลายจังหวัดมีค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทอยู่แล้ว

เป็นที่น่าสังเกตว่านโยบายที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไว้แต่ไม่ได้นำมาบรรจุในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล กลับระบุไว้ว่าเป็นนโยบายในแต่ละด้านแทนนั้น อาทิ โครงการก่อสร้างระบบรถไฟรางคู่ โครงการศึกษาและพัฒนารถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ- เชียงใหม่ สายกรุงเพทฯ- นครราชสีมา และสายกรุงเทพฯ- หัวหิน

รวมทั้งเส้นทางที่เชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้าน โครงการการขยายเส้นทางรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์จากสุวรรณภูมิไปถึงพัทยา การเร่งรัดโครงการรถไฟฟ้า 10 สายทั้งในกทม.และปริมณฑล โดยให้ก่อสร้างได้ครบทั้งหมดภายใน 4 ปี และเก็บค่าบริการ 20 บาทตลอดสายทั้งระบบ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ