คลังเสนอขยายเกณฑ์เพิ่มเติมโครงการรถคันแรก-บ้านหลังแรก/ตั้ง"พระนาย"เข้าครม.วันนี้

ข่าวการเมือง Tuesday September 27, 2011 09:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันนี้มีวาระที่น่าสนใจหลายเรื่อง ได้แก่ กระทรวงการคลังขอขยายหลักเกณฑ์โครงการรถยนต์คันแรก เช่น แหล่งผลิต ขนาดของเครื่องยนต์ หรือหลักเกณฑ์การถือครองรถยนต์คันแรก พร้อมขยายหลักเกณฑ์โครงการบ้านหลังแรก ด้วยการกำหนดให้ผู้ซื้อบ้านหลังแรกราคา 1-2 ล้านบาท ได้รับสินเชื่อดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 2-3 ปี โดยจะให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) เป็นผู้ดำเนินการหลัก เบื้องต้นกำหนดวงเงินสินเชื่อไว้ 1 หมื่นล้านบาท

กระทรวงการคลังขอความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจบัตรเครดิต โดยยืนยันร่างฯ ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ที่จะมีการจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะคุ้มครองลูกค้า

รวมทั้งการขออนุมัติกรอบการกู้เงินในประเทศและให้กู้ต่อแก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน(รฟม.) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ งบประมาณ 19,381 ล้านบาท และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ งบประมาณ 17,838 ล้านบาท พร้อมทั้งขออนุมัติเงินกู้ให้บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับโครงการ Airport Link ในประเทศ จำนวน 1,860 ล้านบาท โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน

นอกจากนี้ จะมีการรายงานผลการศึกษาการให้บริการตามนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายของรัฐบาล เบื้องต้นพบว่าถ้าลดราคาค่าโดยสารลง ปริมาณผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นกว่าระบบจะรองรับได้

กระทรวงคมนาคม เสนอขอรับเงินอุดหนุนของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) ประจำปีงบประมาณ 2554 ในการดำเนินมาตรการรถเมล์-รถไฟฟรี โดย รฟท.ขอรับเงินอุดหนุนสำหรับการให้บริการสาธารณะ จำนวน 4,159.229 ล้านบาท สำหรับการให้บริการเดินขบวนรถเชิงสังคม จำนวน 164 ขบวน โดยมีกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้บริการเชิงสังคมที่เป็นผู้มีรายได้น้อย จำนวน 31.205 ล้านคน ส่วน ขสมก.ขอรับเงินอุดหนุนจำนวน 1,513 ล้านบาท

กระทรวงแรงงานเสนอให้ ครม.พิจารณาทบทวนมติ ครม. เรื่องการปรับค่าจ้างของลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2554 โดยให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ที่ให้ปรับอัตราค่าจ้างของลูกจ้างรัฐวิสาหกิจเพิ่มไม่เกินร้อยละ 5 หรือไม่เกิน 50,000 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554 ซึ่งการทบทวนครั้งนี้ให้ตัดเพดานที่กำหนดไว้ที่ไม่เกิน 50,000 บาทออกไป

กระทรวงยุติธรรม เสนอให้พิจารณาแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ปปท.) จำนวน 5 คน ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาแล้ว ได้แก่ นายโสภณ จันทรมะ เป็นประธานกรรมการ และกรรมการ ประกอบด้วย นายกนก พรรณรักษา, นายถวิล อินทรักษา, นายประสิทธิ์ แสนศิริ และนายปรีชา จำปารัตน์ ส่วนนายคัมภีร์ แก้วเจริญ ที่ขอถอนตัวไป ทางกระทรวงยุติธรรมได้เสนอรายชื่อนายสมศักดิ์ วงส์ยืน เข้ามาแทน

กระทรวงยุติธรรม ขอความเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการนำทรัพย์สินที่ศาลมีคำสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินส่งให้กระทรวงการคลัง

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอขอขยายเวลาการชำระคืนเงินยืมกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในการจัดหาปุ๋ยปีเพาะปลูก 2546/2547 โดยยังมีสถาบันเกษตรกรค้างชำระอยู่ 9 แห่ง วงเงิน 1 ล้าน 4 แสน 3 หมื่นบาท

กระทรวงกลาโหมเสนอขออนุมัติโครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์อเนกประสงค์ แบล๊กฮอว์ก รุ่นเอ็ม ของกองทัพบก เพื่อใช้ในภารกิจด้านธุรการและยุทธวิธีเพิ่มเติมอีก 2 เครื่อง วงเงินงบประมาณ 2.7 พันล้านบาท จากเดิมตั้งงบประมาณไว้ 3 พันล้านบาท เพื่อจัดซื้อ 3 เครื่อง แต่เนื่องจากค่าเงินเหรียญสหรัฐ และราคาของ ฮ.รุ่นดังกล่าวสูงขึ้น ทำให้สามารถซื้อได้เพียง 2 เครื่องเท่านั้น

กระทรวงมหาดไทย เสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทย 45 ตำแหน่ง โดยตำแหน่งที่สำคัญนอกเหนือจากการแต่งตั้งนายพระนาย สุวรรณรัฐ ขึ้นรักษาการปลัด มท.แล้ว ยังต้องจับตาดูตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองแทนนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ ที่จะเกษียณอายุราชการ ซึ่งมีแคนดิเดทอยู่ 2 คน คือ นายประชา เตรัตน์ กับนายสุกิจ เจริญรัตนกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ส่วนตำแหน่งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล รองปลัดฯ จะได้รับแต่งตั้งให้มาแทนนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ที่จะสลับตำแหน่งกลับไปเป็นรองปลัดฯ

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอการพิจารณากรอบและงบประมาณรัฐวิสาห-กิจประจำปีงบ 2555 โดยมีรัฐวิสาหกิจ 54 แห่ง ภายใต้สังกัด 16 กระทรวง วงเงินดำเนินการรวม 613,717 ล้านบาท และวงเงินเบิกจ่ายลงทุน 319,732 ล้านบาท คาดจะมีกำไรสุทธิ 83,262 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.1 จากปี 2554 ซึ่งในจำนวนนี้ไม่รวมบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพราะวงเงินลงทุนเบื้องต้นต้องรอผ่านความเห็นชอบจากการประชุมผู้ถือหุ้นก่อน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ขอความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง เพื่อปรับปรุงวิธีการแจ้งคำสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักร และปรับปรุงอัตราโทษใหม่ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ และการเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายของแรงงานต่างด้าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ