น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า สถานการณ์น้ำท่วมกรุงเทพฯ ในขณะนี้เข้าสู่ภาวะวิกฤติ เพราะสิ่งที่ทุกฝ่ายกำลังต่อสู้กับน้ำท่วมอยู่นี้เหมือนกับความพยายามฝืนธรรมชาติ เนื่องจากมวลน้ำในครั้งนี้มีปริมาณมาก ทั้งนี้ยืนยันว่าจะไม่ปล่อยให้กระแสน้ำที่หลากลงมาจากทางเหนือได้ไหลตามธรรมชาติ เพราะจะยิ่งทำให้มวลน้ำกระจายไปยังหลายพื้นที่มากขึ้น แต่เห็นว่าแนวทางการทำคันกั้นน้ำจะช่วยชะลอความแรงและเร็วของน้ำไว้ได้ โดยจะพยายามบังคับให้มวลน้ำไหลลงสู่คลองเพื่อระบายลงทะเลอ่าวไทยโดยเร็วที่สุด
"กราบเรียนพี่น้องประชาชนว่าเราเองมีเจตนาดีและมีความตั้งใจ...ไม่ท้อค่ะ ไม่ได้ร้องไห้เลย แต่ที่เห็นในภาพมันอาจะเป็นจังหวะที่เหมือน ไม่เคยร้องไห้ เพราะอยู่ตรงนี้ต้องเข้มแข็งและยืนยิ้มรับช่วยกัน"นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยรอยยิ้ม แต่มีน้ำตาคลอ
ส่วนข้อเสนอของนักวิชาการที่จะให้ใช้ ถ.วิภาวดีรังสิตเป็นที่ช่องทางระบายน้ำนั้น เรื่องนี้ กทม.ได้หารือ ศปภ.แล้ว แต่ในแง่ของการปฏิบัติไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือไม่ อย่างไรก็ดีแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เห็นตรงกันขณะนี้ คือ การระบายน้ำลงสู่ฝั่งตะวันออก และตะวันตกของกรุงเทพฯ
นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ปัญหาน้ำท่วมขังในกรุงเทพฯ บางพื้นที่อาจจะใช้เวลานานถึง 1 เดือน ขณะนี้บางพื้นที่อาจใช้เวลาน้อยกว่านั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับการสูบน้ำ การเร่งระบายน้ำ และความสูงต่ำของแต่ละพื้นที่ด้วยเช่นกัน
สำหรับการเร่งระบายน้ำภายในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ถูกน้ำท่วมนั้น คาดว่าที่ต้องใช้เครื่องสูบน้ำนับพันตัว แต่ขณะนี้ยังติดขัดว่ามีอุปกรณ์ไม่เพียงพอ ส่วนพื้นที่ประสบอุทกภัยในต่างจังหวัดที่น้ำเริ่มลดลงนั้น จะต้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยอย่างเต็มที่
นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า จะไม่ย้ายที่ทำการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) ออกจากอาคารผู้โดยสารของสนามบินดอนเมือง เพราะเห็นว่าขณะนี้ที่ ศปภ.ดอนเมือง ยังสามารถใช้เส้นทางโทลเวย์เข้ามาปฏิบัติงานที่ศูนย์ได้ แต่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสำรวจเส้นทางและที่พักด้านนอก รวมถึงลานจอดรถ และระบบการขนส่งต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติงาน
พร้อมทั้ง ขอความเห็นใจจากประชาชนในการทำงานของ ศปภ.เนื่องจากขณะนี้ ศปภ.ถือเป็นหน่วยงานเดียวที่กำลังทำงานอย่างเต็มที่และมีเจ้าหน้าที่จำกัด และเข้าใจดีว่าเจ้าหน้าที่หลายคนเหนื่อยล้า และบางคนที่บ้านก็ประสบปัญหาน้ำท่วมด้วยเช่นกัน
ส่วนกรณีที่กระทรวงกลาโหมที่พร้อมจะเปิดให้ใช้พื้นที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต เป็นที่ทำการ ศปภ.นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สโมสรทหารบกเองก็อยู่บนเส้นทางเดียวกับการไหลผ่านของน้ำ อีกทั้งยังมีผู้ให้ข้อมูลว่าสโมสรทหารบกอาจจะเกิดสถานการณ์น้ำท่วมได้ ซึ่งก็จะไม่ต่างกับที่ดอนเมืองในขณะนี้ ดังนั้นจึงไม่อยากให้มีการตื่นตระหนกจนเกินไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณชาวกทม.ที่เดินทางออกต่างจังหวัดในระยะนี้ เพราะเกรงว่าสถานการณ์จะสับสนวุ่นวาย ขณะที่ ศปภ.ได้มีการเตรียมรองรับประชาชนในพื้นที่ต่างจังหวัด โดยที่ลพบุรี รับได้ 5 พัน-1 หมื่นคน และจะหารือกับจังหวัดอื่น ๆ ที่สามารถรองรับประชาชนได้ด้วย