นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลัง พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และคณะผู้บริหารดีเอสไอ เข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาลว่า การมาพบวันนี้ไม่มีอะไรผิดปกติ เป็นการมารายงานให้ทราบภารกิจของดีเอสไอ รวมทั้งรายงานความคืบหน้าการทำหน้าที่ของดีเอสไอในคดีต่าง ๆ ในฐานะที่ตนได้รับมอบหมายให้รักษาราชการ และดูแลงานแทน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะการกำกับดูแลดีเอสไอ
นายชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากที่ดีเอสไอเข้ามารายงานความคืบหน้าคดีฮั้วเลือก สว.แล้ว ก็ยังมีการรายงานให้ทราบถึงความคืบหน้าในคดีพิเศษที่ทำอยู่ เช่น คดีอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม, คดีดิไอคอน กรุ๊ป และคดีหมอบุญ เป็นต้น โดยตนได้มอบนโยบายให้ดีเอสไอ ทำงานตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่อย่างตรงไปตรงมา และต้องยึดความถูกต้องตามครรลองกฏหมาย โดยไม่ให้มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง
"คดีฮั้วสว. ก็เป็นอย่างที่สื่อทราบ ซึ่งแบ่งเป็นคดีฟอกเงิน และอั้งยี่ ที่ดีเอสไสรับผิดชอบ ส่วนการสรรหา สว.เป็นความรับผิดชอบของคณะกรรมการเลือกตั้ง หรือ กกต. ที่ตั้งอนุกรรมการชุดที่ 26 ขึ้นมาดูแล" นายชูศักดิ์ ระบุ
พร้อมระบุว่า ในกรณีการรายงานเส้นทางการเงินที่อาจจะมีความเชื่อมโยงไปถึงพรรคการเมืองหรือไม่นั้น ตนคงไม่เข้าไปดูรายละเอียดลึกขนาดนั้น ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครนำไปแอบอ้างได้ว่าทีมงานรัฐมนตรีขอดูสำนวน
"ไม่ได้เข้าดูรายละเอียดถึงขนาดนั้น โดยได้บอกกับอธิบดีดีเอสไอไปว่า ไม่อยากทราบรายละเอียด เพราะถ้ามีคนไปแอบอ้างว่า ทีมงานของรัฐมนตรีขอสำนวน ก็ขอยืนยันว่าไม่มี ไม่เคยไปก้าวก่าย" รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ
ด้าน พ.ต.ต. ยุทธนา กล่าวถึงกรณีกลุ่ม สว. ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจิตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้อธิบดีหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยขอยืนยันว่า ไม่กังวล เพราะได้ทำงานในอำนาจหน้าที่ภายใต้กรอบกฏหมาย และพร้อมที่จะรับการตรวจสอบ ซึ่งการทำคดีไม่มีเรื่องไหนที่หนักใจ เพราะทำตามในรูปของคณะกรรมการสอบสวน มีพนักงานอัยการร่วมสอบสวน และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย