ศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้อง นายอุปกิต ปาจารียางกูร อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำเลยในข้อหาร่วมสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน มีส่วนร่วมกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ สนับสนุนหรือช่วยเหลือ หรือสมคบกันกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด เนื่องจากกรณีที่พนักงานสอบสวนได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาที่ค้ายาเสพติดและโอนเงินผ่าน 22 บัญชี แต่พยานหลักฐานของโจทก์ไม่ปรากฎว่านายอุปกิตมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องดังกล่าวในการสมคบกันเพื่อค้ายาเสพติด แม้จะมีการแชทคุยกับนายทุน มิน หลัด ผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติดที่ศาลยกฟ้องไปพร้อมกับพวก 5 รายก่อนหน้านี้
แชทดังกล่าวเป็นเพียงการพูดคุยการโอนเงินชำระค่าไฟฟ้ามูลค่า 30 ล้านบาทที่ท่าขี้เหล็ก โดยชำระให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สาขาแม่สาย การพูดคุยเป็นการทวงเงินให้ชำระค่าไฟฟ้าท่าขี้เหล็กเพียงเท่านั้น ขณะที่กลุ่มผู้ค้ายามีการโอนเงินเพียงครั้งละ 500,000-1,000,000 บาท โดยในช่วงเวลาดังกล่าวมีการปิดชายแดนจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด- 19 จึงต้องใช้บัญชีส่วนตัวของนายทุน มิน หลัด โอนเงินสู่ กฟภ.สาขาแม่สาย
นายอุปกิต กล่าวภายหลังรับฟังคำพิพากษาว่า ทีมทนายความสามารถโต้แย้งข้อกล่าวหาได้ทั้งหมด ศาลพิพากษายกฟ้อง ทางด้านกฎหมายตนได้รับความเป็นธรรม แต่การถูกกล่าวหาทำให้ตนทุกข์ทรมานใจมานาน 3 ปีในสิ่งที่ไม่ได้ทำผิด การอภิปรายของนายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน ที่นำพยานหลักฐานเท็จทั้งหมดมาแสดง ตนมั่นใจว่ากรรมจะตามสนอง เพราะมีหลายคนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเรื่องนี้ และประชาชนสามารถเห็นได้ว่าแม้กระทั่งผู้สมัครพรรคเขาก็เกี่ยวข้องกับยาเสพติด มีเรื่องละเมิดทางเพศ มีอิทธิพล เมื่อผลคำพิพากษายกฟ้องในวันนี้ ตนจะขอใช้สิทธิ์ทางกฎหมายเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมคืนมา จะขอยื่นฟ้องกลับถ้าคดีนี้ถึงที่สุดอย่างแน่นอน
นายอุปกิต กล่าวอีกว่า วันนี้ตนขอมอบตำแหน่งและคำกล่าวหาว่าตนเป็น สว.ทรงเอ คืนให้นายรังสิมันต์ และพรรคประชาชนที่เจ้าตัวสังกัดอยู่ แม้การพิพากษาวันนี้เป็นเพียงแค่ศาลชั้นต้น แต่ทำให้เห็นแนวทางแล้วว่าไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกันเลย เป็นเรื่องการชำระเงินนั้นเป็นการจ่ายค่าไฟฟ้าในช่วงที่ชายแดนปิดจากโควิด-19 เท่านั้น หลังจากนี้ก็จะดูต่ออีกว่าฝ่ายอัยการจะอุทธรณ์คำร้องหรือไม่
นายอุปกิต ยอมรับว่า รู้จักกับนายทุน มิน หลัด มานานกว่า 10 ปีแล้ว เมื่อก่อนพ่อของนายทุน มิน หลัด เป็นอธิบดีท่องเที่ยว จึงได้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทำธุรกิจในประเทศของเจ้าตัว หลังจากเกิดเรื่องก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกแล้ว และเชื่อว่านายทุน มิน หลัดก็เป็นผู้บริสุทธิ์ในคดีนี้ด้วย ทั้งนี้ตนอยากฝากไปถึงนายรังสิมันต์ด้วยว่า การเป็นนักการเมืองสมัยใหม่จะมีวาทกรรมที่พูดไปเรื่อยไม่ได้ ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย