น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกต การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน ว่า งบประมาณทั้งหมดเป็นงบที่ใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนให้สามารถเติบโตได้ โดยได้มีการทบทวนงบประมาณจากหลายหน่วยงาน ซึ่งเมื่อมีข้อท้วงติง เช่น โครงการดิจิทัลวอลเล็ต รัฐบาลก็รับฟังความคิดเห็น โดยเชื่อว่า งบประมาณที่จัดทำขึ้นนี้ จะช่วยทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้
พร้อมเชื่อว่า การจัดงบประมาณปี 69 จะตรงเป้าหมายในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และสามารถรองรับปัญหามาตรการปรับขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ได้
"เราลองจัดสรรงบประมาณไปก่อนรอบนึงแล้ว ก่อนจะมีเรื่องภาษีสหรัฐฯ เข้ามา พอเมื่อมีเรื่องภาษีสหรัฐฯ เข้ามาก็มีการปรับเปลี่ยน โดยรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน...งบนี้จะมีส่วนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยการเติบโตเศรษฐกิจ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพราะฉะนั้นมันตรงเป้าอยู่แล้ว" น.ส.แพทองธาร กล่าว
ส่วนที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เสนอให้มีการโยกงบจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จำนวน 1.57 แสนล้านบาท ไปใช้ในการแก้ปัญหายาเสพติด ขณะที่ฝ่ายค้านมองว่าไม่ควรโยกงบส่วนนี้ไปใช้แก้ปัญหายาเสพติด แต่ควรใช้งบกลางมากกว่านั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการจัดสรรงบประมาณ มีเรื่องการปราบปรามยาเสพติดอยู่แล้ว เพราะถือเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลให้ความสำคัญ รัฐบาลก็พร้อมรับฟังความเห็นแต่ขอให้รัฐบาลได้ดูเรื่องการบริหารก่อน ทั้งนี้ ทุกความเห็นที่เป็นประโยชน์ก็พร้อมรับฟัง และต้องอยู่บนพื้นฐานเดียวกันว่าอยากช่วยประเทศ
"อะไรที่จำเป็นและเร่งด่วน ก็จะใช้งบกลาง เพราะฉะนั้นจะดูเรื่องการทำงานอีกครั้ง ว่าหากมีอะไรแทรกเข้ามาที่เป็นเรื่องเร่งด่วน ก็สามารถใช้งบกลางได้ แต่อะไรที่อยู่ในงบประจำปีได้ ก็จัดสรรอยู่ในนั้นอยู่แล้ว ซึ่งค่อนข้างครอบคลุมทุกหัวข้ออยู่แล้ว" นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนที่นายทักษิณ อาสาลงพื้นที่แก้ปัญหายาเสพติดด้วยตัวเองนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกกำลัง ทุกความช่วยเหลือถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ไม่ว่าจะเป็นเอกชนหรือใครก็ตาม หากช่วยแก้ปัญหาสังคมได้ก็ยินดีที่จะร่วมมือ หรือจะมาคุยกับรัฐบาลโดยตรงก็ยินดี
"บังเอิญคุณทักษิณเป็นพ่อ ก็เลย comment ได้ใกล้ชิด ซึ่งถ้าท่านจะลงพื้นที่เอง ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของท่านอยู่แล้ว ตามสะดวก จริง ๆ ใครก็ตามคิดช่วยประเทศชาติ ยินดีเสมอ ดิฉันก็มาจากภาคเอกชนเช่นกัน วันนี้เป็นรัฐบาลก็รับฟังอยู่แล้ว บางทีมีโอกาสได้ไปฟังนักธุรกิจ ภาคเอกชน อะไรที่เป็นประโยชน์ก็หยิบมาใช้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว" น.ส.แพทองธาร ระบุ