นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกระแสข่าวว่านายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ ทำหนังสือตอบกลับแพทยสภาที่ได้มีมติลงโทษบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการพักรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ รพ.ตำรวจ ชั้น 14 ว่า ในเชิงของข้อเท็จจริงทางการแพทย์ ที่แพทยสภาออกมาชี้ค่อนข้างชัดว่าอาการของนายทักษิณไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤตนั้น ก็สมควรที่จะจบแล้ว เพราะ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็เคยพูดไว้ในสภาฯ ว่าถึงที่สุดก็ให้แพทยสภาเป็นคนตัดสิน
"ฉะนั้น เมื่อไม่วิกฤต ความจำเป็นที่นายทักษิณ จะต้องรักษาตัวอยู่ รพ.ตำรวจต่อไป ก็จบแล้ว นั่นหมายความว่า กระบวนการทั้งหมดที่มีการนำนายทักษิณไปอยู่ที่ รพ.ตำรวจ เป็นเรื่องของการช่วยเหลือกัน เพื่อทำให้นายทักษิณไม่ติดคุก แต่ให้ไปอยู่สบาย ๆ ยังไม่นับข้อเท็จจริงที่ห้องพยาบาล อาจจะเรียกว่าหรูหราเกินความจำเป็น ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่า นายทักษิณได้รับสิทธิพิเศษที่เหนือกว่าคนอื่น" นายรังสิมันต์ กล่าว
ส่วนในแง่ของการลงโทษบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้น นายรังสิมันต์ หวังว่า แพทยสภาทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา โดยยึดเอาพยานหลักฐานเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เป็นมาตรฐานในอนาคต
ส่วนความสง่างามของนายสมศักดิ์ ที่ใช้กระบวนการวีโต้กลับมานั้น นายรังสิมนต์ กล่าวว่า เราทุกคนต่างทราบว่านายสมศักดิ์ อยู่พรรคอะไร นายทักษิณมีอำนาจ มีอิทธิพลต่อใคร และเป็นพ่อของนายกรัฐมนตรี ก็ยิ่งเป็นการซ้ำเติมให้กรณีชั้น 14 เป็นเรื่องของการช่วยเหลือพวกพ้อง ซึ่งวันนี้ต้องยอมรับว่าหลายภาคส่วนมีปัญหาคอร์รัปชัน ความไร้ประสิทธิภาพของการบังคับใช้กฎหมาย ประชาชนสูญสิ้นศรัทธาไปมากแล้ว จึงหวังว่าแพทย์จะไม่ถูกนับรวมไปด้วย
"ต้องยอมรับว่า กระบวนการช่วยเหลือนายทักษิณ ไม่อายฟ้าดิน ไม่ได้สนใจว่าประชาชนจะมองต่อปรากฏการณ์นี้อย่างไร และทำให้เกิดมาตรฐานที่เลวร้ายต่อไปเรื่อย ๆ...หวังว่าสิ่งที่แพทยสภาจะทำ เป็นสิ่งที่สังคมไทยจับตามอง หากสุดท้ายกลายเป็นกระบวนการช่วยเหลือนายทักษิณ สังคมไทยจะหมดศรัทธาในหมอไปมาก" นายรังสิมันต์ กล่าว
ส่วนการวีโต้ในครั้งนี้ จะทำให้น้ำหนักในการนำไปเป็นพยานหลักฐานคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะมีการนัดพร้อม และไต่สวนกรณีการพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ในวันที่ 13 มิ.ย.ได้หรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ ระบุว่า ต้องไปดูในรายละเอียด ซึ่งนายสมศักดิ์ พยายามหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเนื้อหาสาระของการวีโต้ ดังนั้นจึงตอบไม่ได้ว่าสุดท้ายแล้วจะส่งผลอย่างไร แต่ก็ต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริง
"ในเมื่อข้อเท็จจริงชัดว่านายทักษิณป่วยวิกฤติเป็นเรื่องเท็จ คงต้องรอดู หากนายสมศักดิ์ไม่ดำเนินการที่จะให้รายละเอียด คงต้องพิจารณาว่าคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร จะมีการพิจารณาเรื่องนี้หรือไม่" รองหัวหน้าพรรคประชาชน ระบุ