ปชป. แนะรัฐใช้นโยบาย "ประกันรายได้เกษตรกร" แก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ

ข่าวการเมือง Thursday May 29, 2025 18:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ว่าที่ร้อยโท ยุทธการ รัตนมาศ สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 โดยหยิบยกประเด็นด้านการเกษตร ที่คำแถลงงบประมาณรายจ่ายที่ระบุว่า "การเกษตรสร้างมูลค่า" ด้วยหน่วยรับงบประมาณ 35,000 ล้านบาท เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันภาคการเกษตร ลดต้นทุนการผลิต และสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ แต่ในทางกลับกัน เกษตรกรในหลายจังหวัดทางภาคใต้ โดยเฉพาะในเขตเลือกตั้งของตน กำลังประสบปัญหาความเดือดร้อนอย่างหนักจากผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำถึงขีดสุดในรอบ 3 ปี โดยเฉพาะราคายางพาราอยู่ในสถานะที่ขายขาดทุน ไม่คุ้มค่าต้นทุนการผลิต

"วันนี้ ราคาปาล์มตกต่ำ บางวันเหลือ 3 บาทกว่า วันนี้ราคา 4 บาทต่อ 1 กิโลกรัม หนักไปกว่านั้น คือโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มไม่รับซื้อผลผลิต และลานเทก็ไม่รับซื้อด้วย เพราะไม่รู้จะไปขายให้ใคร รัฐบาลก็ไม่มีหลักประกันอะไรให้กับเกษตรกร" ว่าที่ร้อยโทยุทธการ กล่าว

พร้อมเสนอให้รัฐบาลพิจารณานำนโยบาย "การประกันรายได้เกษตรกร" ของพรรคประชาธิปัตย์ ในสมัยที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็น รมว.เกษตรฯ มาใช้เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงให้กับเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพด และพืชอื่น ๆ รวม 5 ชนิด ซึ่งมีการเสนอราคาประกันรายได้เกษตรกร ปาล์มน้ำมัน ไว้ที่กิโลกรัมละ 4-5 บาท ยางแผ่นกิโลกรัมละ 60 บาท และน้ำยางสดกิโลกรัมละ 57 บาท

ว่าที่ร้อยโทยุทธการ ยังแสดงความเป็นห่วงปัญหาและโอกาสของปาล์มน้ำมันของประเทศไทย ภายใต้ยุคทรัมป์ 2.0 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันพืชในประเทศ และนโยบายไบโอดีเซลของรัฐบาล หากมีการนำเข้าข้าว และถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น จะทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคากับน้ำมันปาล์ม และความต้องการปาล์มน้ำมันดิบสำหรับไบโอดีเซลลดลง

นอกจากนี้ ยังเสนอให้รัฐบาลพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมันและผลิตภัณฑ์จากปาล์มน้ำมัน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ได้เสนอไว้ตั้งแต่ปี 2567 เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับเกษตรกรชาวสวนปาล์ม ซึ่งร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวในขณะนี้ ยังคงค้างอยู่ในการพิจารณาของนายกรัฐมนตรี

ว่าที่ร้อยโทยุทธการ กล่าวว่า การจัดงบประมาณครั้งนี้ มีการปรับลดงบกลางลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยปี 2569 ตั้งงบกลางไว้ที่ 632,000 ล้านบาท ลดลงจากปี 2568 ประมาณ 200,000 ล้านบาท และลดลงน้อยกว่าปี 2567 อีกประมาณ 100,000 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลได้นำงบประมาณส่วนนี้ไปใช้ในหน่วยงานกระทรวงที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนโดยตรง



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ