นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน แสดงความขอบคุณพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พรรคร่วมฝ่ายค้านน้องใหม่ ที่เชิญเข้าร่วมการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ในช่วงเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่จะถึงนี้ โดยยืนยันว่าจะใช้ทุกกลไกของสภาฯ ในการตรวจสอบรัฐบาล และปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน เพื่อแก้ปัญหาให้กับประเทศ
"สิ่งที่เราต้องยืนยัน คือ ท่ามกลางสภาวะที่ประชาชนจำนวนไม่น้อย เริ่มสูญเสียความไว้วางใจต่อรัฐบาลมากขึ้น เราพร้อมเป็นตัวแทนในการตรวจสอบรัฐบาล และแก้ปัญหาให้กับประเทศ ผ่านทุกกลไกของสภา จึงขอยืนยันว่ากลไก มาตรา 151 เป็นอาวุธที่มาแน่นอน" โฆษกพรรคประชาชน กล่าว
ส่วนกรอบเวลาในการหารือเรื่องการยื่นญัตติเพื่อขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 นั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า หากสัปดาห์หน้าพรรคประชาชนได้ความชัดเจน ก็คงไม่รอช้าที่จะหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่น เพื่อเดินหน้า และหวังว่าในวันที่ 3 ก.ค. จะมีการเปิดประชุมสภาฯ ได้
"มีข่าวแว่วมาว่า อาจจะไม่มีการเรียกประชุม เนื่องจากตอนนี้ ก็ยังไม่มีหนังสือเชิญมา ซึ่งถือว่าผิดวิสัยมาก จึงเราหวังว่าประธานสภาฯ จะมีการดำเนินการเรื่องนี้ หรือมอบหมายให้รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ดำเนินการเรื่องนี้แทน" โฆษกพรรคประชาชน ระบุ
พร้อมระบุว่า มาตรา 151 นับเป็นอาวุธที่ทรงพลัง ขณะเดียวกันก็เป็นอาวุธที่ต้องใช้อย่างแม่นยำ เนื่องจากตามรัฐธรรมนูญแล้ว มาตรา 151 เป็นกลไกที่ใช้ได้เพียง 1 ครั้งต่อปีสมัยประชุม ดังนั้นการใช้อาวุธนี้จึงไม่อยากให้เสียของ และต้องใช้อย่างหวังผล ทั้งเรื่องการลงมติในสภาฯ หรือการนำเสนอความไม่ชอบธรรมต่าง ๆ ของรัฐบาล
"ด้วยปัจจัย และข้อจำกัดเหล่านี้ เราจะหารือกันถึงจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการยื่น และจะมีการหารือร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยเช่นเดียวกัน เพื่อหาข้อสรุป" นายพริษฐ์ กล่าว
ส่วนที่มองกันว่าเป็นคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ต้องให้เวลาทำงานก่อนนั้น เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะยังเป็นนายกรัฐมนตรีคนเดิมที่ทำงานต่อเนื่อง แม้รัฐมนตรีในรัฐบาลจะเปลี่ยนแปลงบ้างบางตำแหน่งก็ตาม อย่างไรก็ดี ต้องขอดูหน้าตารัฐมนตรีใหม่ที่จะเข้ามาก่อนว่าเป็นใคร อยู่กระทรวงใด จึงจะสามารถสรุปได้ว่า นอกจากจะอภิปรายนายกรัฐมนตรีแล้ว จะต้องมีรัฐมนตรีคนใดเพิ่มอีกหรือไม่
โฆษกพรรคประชาชน กล่าวว่า อยากสื่อสารไปถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าให้ใช้ช่วงเวลานี้ทบทวนการทำหน้าที่ของตัวเอง ทั้งนี้ ในฐานะที่เราเป็นฝ่ายค้านจะพยายามเสนอแนะแนวทาง หากเห็นว่ารัฐบาลกำลังเดินไปในแนวทางที่ไม่ถูกต้อง
"อยากให้นายกฯ ทบทวนในการทำหน้าที่ ว่าพร้อมจะทำหน้าที่ของตัวเองต่อหรือไม่ พร้อมเป็นหัวเรือในการแก้ปัญหาที่รุมเร้าประเทศเราหรือไม่ หากทบทวนแล้ว คิดว่าไม่สามารถเรียกความไว้วางใจจากประชาชนกลับคืนมาได้ พรรคประชาชน ก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่า ทางออกที่ดีที่สุด คือ การยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชน เพราะเมื่อไรก็ตาม ที่เราได้ข้อสรุปว่าจะมีการยื่นตามมาตรา 151 ทางเลือกของนายกฯ ในการยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชนจะไม่มีอีกต่อไป เพราะตามรัฐธรรมนูญแล้ว หากมีการยื่นมาตรา 151 จะไม่สามารถยุบสภาได้" นายพริษฐ์ กล่าว
นายพริษฐ์ ยังให้ความเห็นว่า รัฐบาลปัจจุบันไม่ได้มีเสถียรภาพรัฐบาล เพราะการที่รัฐบาลตัดสินใจชะลอร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ออกไปนั้น ไม่ใช่เพราะต้องการรับฟังเสียงของประชาชนเพิ่มเติม แต่ที่เลื่อนออกไป เป็นเพราะเสียงไม่พอมากกว่า หลังจากที่พรรคภูมิใจไทยถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล
"ขอย้ำว่า ทางออกต้องไม่ใช่การเลื่อน แต่ควรจะเป็นการถอน ขอยืนยันคำเดิมว่า หากมีความจริงใจที่จะฟังเสียงทักท้วงจากประชาชน หรือพรรคฝ่ายค้านจริง ต่อร่าง พ.ร.บ.นี้ ก็ควรจะถอน ไม่ใช่เลื่อน" โฆษกพรรคประชาชน ระบุ