นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน นำสส. พรรคประชาชน กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมที่จะนำเสนอต่อที่ประชุมสภาประชุมผู้แทนราษฎรในวันนี้ว่า เป็นอีกหนึ่งวันที่ตัวแทนของทุกฝ่ายทั้งฝ่ายรัฐบาลฝ่ายค้านพรรคประชาชนเห็นตรงกันว่า ประเทศไทยต้องมีกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งตลอด 20 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์ทางการเมือง ได้ฉุดรั้งการพัฒนาของประเทศไทยมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเกิดการรัฐประหาร 2 ครั้ง มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 4 ฉบับ มีนายกรัฐมนตรี 9 คน รวมถึงผู้ที่บาดเจ็บล้มตายจากเหตุการณ์ชุมนุม ส่งผลกระทบให้ประเทศไทยเสียหายนับ 100,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมา จึงเห็นตรงกันว่า ถ้าวันนี้ไม่มีกฎหมายนิรโทษกรรม อาจจะไม่สามารถปลดชนวนระเบิดความขัดแย้งนี้ได้ หรืออาจจะต้องรอการปะทุในวันหน้าได้ รวมถึงความขัดแย้งตลอด 20 ปี ยังเป็นโซ่ตรวนในการฉุดรั้งพัฒนาประเทศ
นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเองจึงอยากเรียกร้องในความกล้าหาญในฐานะสส. ไม่ว่าจะมาจากซีกพรรคการเมืองใด ให้ทุกคนลงคะแนนเสียงเพื่อให้ร่างนิรโทษกรรมผ่าน ในภาพใหญ่ผ่านไปก่อนเพื่อนำไปสู่การพิจารณาในวาระที่ 2 แม้ว่าหลายพรรคอาจจะยังไม่สะดวกใจที่จะโหวตรับในทุก ๆ ร่าง ตามสิ่งที่ประชาชนเรียกร้อง แต่เชื่อว่ายังมีวิธีการโหวตและการลงคะแนนเสียงในสภาฯ ที่อาจจะไม่ขัดต่อความรู้สึกของแต่ละคนมากนัก
"การโหวตรับร่างของตัวเองในการยืนยันหลักการ รวมถึงโหวตรับร่างในสิ่งที่ตนเองคิดว่ารับได้ อย่างกรณีร่างของภาคประชาชนใครคิดว่ารับได้ก็ให้โหวตรับไปเลย แต่ในขณะเดียวกันร่างที่เราเห็นว่าแตกต่างกันอยู่ ไม่ควรที่จะมาโหวตคว่ำ หรือปิดกั้นความคิดเห็น เรายังใช้ทางเลือกในการโหวตงดออกเสียง ในเรื่องที่เราเห็นแตกต่างกันอยู่ได้ ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญ ให้ร่างนิรโทษกรรมฉบับนี้ได้ผ่านในวาระที่ 1 และได้เข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 2 " นายณัฐพงศ์ กล่าวโดย นายณัฐพงศ์ ย้ำว่า การโหวตในวันนี้ไม่ได้เป็นการแสดงออกว่าไม่เห็นด้วยกับร่างของใคร แต่เป็นการที่ต้องยืนยันว่าประเทศนี้เห็นด้วยกับการที่ต้องมีกฎหมายนิรโทษกรรม การลงมติในวันนี้ไม่ใช่เป็นการแสดงออกว่าจงรักภักดีหรือไม่จงรักภักดี กับเรื่องใดก็ตาม แต่เป็นเรื่องที่ต้องการหาทางออกร่วมกัน และสมานฉันท์ร่วมกัน
"การโหวตเลือกปฏิบัติ ผมไม่เชื่อว่าจะเป็นชนวนปลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในอดีต จึงอยากส่งข้อเรียกร้องไปยังพรรคอื่น ๆ ที่แม้จะมีจุดเด่นของตนเองแล้วก็ยังมีทางออกอื่น ๆ ในสภาฯ ได้" นายณัฐพงศ์ กล่าวนายณัฐพงศ์ ยังออกมาระบุถึงพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ยืนยันว่าจะไม่มีการโหวตรับร่างนิรโทษกรรมทุกร่างนั้น ว่า ตามข่าวที่ออกมาจะเห็นว่า หลาย ๆ พรรคไม่สะดวกใจกับการนิรโทษกรรมมาตรา 112 ซึ่งพวกเรายังยืนยันว่า ข้อที่เห็นต่างสามารถไปพูดคุยกันในวาระที่ 2 ได้ และเมื่อมีข้อแตกต่างก็ควรใช้แนวทางในการงดออกเสียง ในร่างที่ตนเองที่ไม่สะดวกใจอยู่ แต่ไม่ควรที่จะไปคว่ำ เพราะถือเป็นการปิดกั้นภาคส่วนอื่น ๆ
ส่วนกรณีที่พรรคไทยสร้างไทย ออกแถลงการณ์เสนอเพิ่มเนื้อหาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม เปิดโอกาสผู้ถูกกล่าวหามาตรา 112 ยื่นคำขอพระราชทานอภัยได้ก่อนคดีถึงที่สุด นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า เป็นข้อคิดเห็นที่รับฟังได้ ซึ่งจริง ๆ แล้ววันนี้ยังอยู่ในชั้นของการรับหลักการในสภาฯ โดยทั้ง 4 ร่างที่ไม่รวมของพรรคภูมิใจไทย ยังเป็นร่างที่หลักการค่อนข้างกว้าง ดังนั้น 1 ใน 4 ร่างของวันนี้ ถ้าร่างใดร่างหนึ่งได้ผ่าน และรับหลักการไปแล้ว ก็จะเป็นการเปิดประตูที่สามารถถกเถียงในชั้นกรรมาธิการ
"ยืนยันว่าขอให้ลงมติด้วยใจที่เปิดกว้าง และนำข้อคิดเห็นที่แตกต่างไปพูดคุยในวาระที่ 2" นายณัฐพงศ์ กล่าว