ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยานบุคคลกรณีที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของสว.จำนวน 36 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่ จากกรณีคลิปเสียงบทสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยเริ่มไต่สวน นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นปากแรก และขอให้ น.ส.แพทองธาร ออกไปรอด้านนอกห้องพิจารณาก่อน
สำหรับฝ่ายผู้ร้องทางประธานวุฒิสภามอบฉันทะให้ผู้แทนมาศาลประกอบด้วย 1.พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สมาชิกวุฒิสภา (สว.) 2.พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. 3.นายชนินทร์ แก่นหิรัญ 4. นายตฤณ แก่นหิรัญ 5.นายอมร สุวรรณโรจน์
ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญไม่อนุญาตให้มีการถ่ายทอดภาพและเสียงในการไต่สวน เนื่องจากพยานบุคคลที่มาให้ถ้อยคำเป็นพยานคู่ และเป็นคดีที่เป็นความลับเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ ห้ามไม่ให้ผู้เข้ารับฟังการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ นำข้อความการไต่สวนออกไปเผยแพร่และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริง หรือข้อกฎหมายในลักษณะการสร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน
โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาถึงศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมด้วยนายปิฏก สุขสวัสดิ์ สามี, น.ส.พินทองทา คุณากรวงศ์ ชินวัตร พี่สาว และน.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เมื่อเวลา 09.25 น.
สำหรับวันนี้ ศารัฐธรรมนูญได้เรียกพยาน 2 ปากมาไต่สวน ได้แก่ น.ส.แพทองธาร และนายฉัตรชัย
จากนั้นในวันที่ 27 ส.ค. ศาลรัฐธรรมนูญเปิดให้ผู้ร้องหรือผู้ถูกร้องที่ประสงค์จะแถลงการณ์ปิดคดีให้ยื่นเป็นหนังสือต่อศาล ก่อนนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ ในวันที่ 29 ส.ค.68
สำหรับบรรยากาศโดยรอบของศาลรัฐธรรมนูญมีการวางแผงกั้นทางเข้าด้านหน้าพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาการณ์ ส่วนด้านในที่เป็นโต๊ะลงทะเบียนนั้นมีแผงกั้นห้ามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามา และมีการตั้งจอทีวีถ่ายทอดสดให้สื่อมวลชน
ขณะที่นายสมชาย แสวงการ อดีต สว.กล่าวว่า ผลของคดีนี้จะออกมาเป็นบวกหรือเป็นลบขึ้นอยู่กับคำชี้แจงของนายกรัฐมนตรีเอง ซึ่งตนจะนำไปเป็นข้อมูลเพิ่มเติมในคดีที่ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
"ข้อมูลบางอย่างที่นายกฯ ชี้แจงต่อศาลฯ ตั้งแต่วันที่คลิปหลุดออกมาจนถึงวันนี้ยังไม่เคยออกชี้แจงต่อประชาชนเลย" นายสมชาย กล่าว