
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรีว่า การเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันนี้อาจจะมีข้อจำกัดในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อบริหารราชการแผ่นดินอยู่หลายประการ แต่ขอให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า ตนและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทุกคนจะมุ่งมุ่นทุ่มเทการทำงานโดยไม่เห็นแก่เหน็ดแก่เหนื่อย จะใช้ศักยภาพที่มีอยู่ทั้งกำลังการและกำลังสมองเพื่อให้ประเทศชาติรอดพ้นจากวิกฤตโดยเร็วที่สุด
สำหรับปัญหาเร่งด่วนที่รัฐบาลจะดำเนินการนั้นมี 4 ด้าน ได้แก่
1.ปัญหาด้านเศรษฐกิจ โดยจะเร่งลดรายจ่าย ลดค่าครองชีพ ลดค่าพลังงาน ลดค่าเดินทาง ลดค่าขนส่งต่าง ๆ ของประชาชนและผู้ประกอบการ พร้อมทั้งหามาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย สร้างรายได้ชุมชนให้มีความเข้มแข็ง
2.ปัญหาด้านความมั่นคง โดยจะเร่งดำเนินการแก้ไขปัยหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชาด้วยแนวทางสันติภาพ เพื่อลดความสูญเสียของประชาชนทั้งสองประเทศ โดยยึดหลักการที่จะไม่สูญเสียดินแดน ไม่สูญเสียประโยชน์ ดำเนินชีวิตอย่างปกติสข โดยจะเร่งชดเชยความเสียหายให้กับประชาชนผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็วและครอบคลุมทุกหลังคาเรือน
3.ปัญหาภัยธรรมชาติ โดยจะเร่งต่อยอดระบบเตือนภัยที่เคยทำไว้เมื่อตอนเป็น รมว.มหาดไทย ไม่ให้หยุดชะงัก พร้อมเร่งชดเชยความเสียหายอย่างรวดเร็วและสมเหตุสมผล โดยตนจะเข้ามานั่งควบตำแหน่ง รมว.มหาดไทยด้วย ซึ่งในการทำงาน 6 ปีที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี
4.ปัญหาภัยสังคม เริ่มปราบปรามยาเสพติด ค้ามนุษย์ สแกนเมอร์ พนันออนไลน์ โดยประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อกำจัดภภัยสังคมทุกรูปแบบ เพราะการที่ตนได้เข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ไม่ได้อาศัยบุญคุณของใคร ยกเว้นบุญคุณของคนไทย
การแก้ไขปัญหาดังกล่าวต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะรัฐบาลไม่มีเวลาที่จะทดลองงาน ตนจึงต้องคัดสรรคนเป็นอย่างดี เพื่อให้ได้คนที่สามารถปฏิบัติงานได้ดีมีประสิทธิภาพ ส่วนความกังวลในเรื่องข้อกฎหมายและจริยธรรมนั้น ขอยืนยันว่าจะยึดความถูกต้องของกฎหมาย ไม่ใช่กฎหมู่ ไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ไม่กลั่นแกล้งใส่ร้ายใครเหมือนที่เคยประสบมา และจะเร่งรัดให้มีการเปิดเผยกระบวนการยุติธรรมอย่างโปร่งใส
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นจะดำเนินการไปตามขั้นตอนเพื่อให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จก็จะดำเนินการยุบสภาภายในกรอบเวลา 4 เดือนตามที่ตกลงกันไว้ เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจอนาคตของประเทศต่อไป
"แม้จะมีเวลาไม่มากแต่ผมมั่นใจว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย จะทุ่มเทการทำงานอย่างเต็มที่ เวลาน้อย 4 เดือน ตัวผมและคณะรัฐมนตรีจะไม่มีวันหยุด ไม่มีพักร้อน และถ้าเป็นไปได้ต้องไม่เจ็บป่วย ไม่มี Holiday ไม่มีวันที่จะพักผ่อนกับครอบครัว ยกเว้นพักผ่อนตามความต้องการของร่างกาย ผมจะไม่ทำให้เจตนารมย์ของประชาชนที่มอบความไว้ใจในตัวผมต้องสูญเปล่า และผมจะทุ่มเทอย่างสุดความสามารถเพื่อตอบแทนบุญคุณของแผ่นดิน ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์" นายอนุทิน กล่าว