
พรรคภูมิใจไทย โดย น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใจไทย นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ได้เดินทางมายื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 พร้อมรายชื่อสมาชิกกว่า 100 รายชื่อ ต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเสนอต่อประธานสภาในการบรรจุลงระเบียบวาระต่อไป เป็นประเด็นที่พรรคภูมิใจไทยส่วนหนึ่งได้มีการนำเสนอไปแล้ว และวันนี้ก็มีการยื่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รอเพียงการบรรจุเข้าระเบียบวาระ เพื่อพิจารณาพร้อม ๆ กับของพรรคอื่นต่อไป
ส่วนจะผลักดันร่างของพรรคใดเป็นร่างหลักนั้นคงต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง แต่ในวันนี้พวกเราพร้อมจะยื่นตามที่เราสัญญาไว้ว่าจะทำเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นไม่ใช่สัดส่วนเฉพาะพรรคภูมิใจไทย แต่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคในการร่วมลงชื่อ และเป็นการดำเนินการตาม MOA
- ปรับสัดส่วนจำนวนเสียง สว. จะร่วมลงมติเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระแรก และ วาระสาม จากเดิมที่กำหนดให้ต้องเห็นชอบไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 จากจำนวน สว.ที่มีอยู่ของวุฒิสภา เป็น ไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของจำนวนสว.ที่มีอยู่ หากเทียบเกณฑ์สว.ที่มีปัจจุบัน 200 คน เท่ากับว่า เสียงของสว.ที่จะสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะใช้น้อยลง จาก 67 เสียง เหลือเพียง 50 เสียงเท่านั้น
- เพิ่มหมวดใหม่ 15/1 ว่าด้วยการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งกำหนดให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่กำหนดให้รัฐสภาเป็นผู้เลือกผู้สมัคร ที่แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
1.กลุ่มที่ลงสมัครจากจังหวัดต่างๆ จังหวัดละ 1 คน รวม 77 คน
2.กลุ่มผู้เชี่ยวชาญหรือผู้มีประสบการณ์ 22 คน แบ่งเป็น ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมหาชน 7 คน ผู้เชี่ยวชาญสาขารัฐศาสตร์หรือรัฐประศาสนศาสตร์ จำนวน 7 คน และ ผู้มีประสบการรด้านการเมือง การบริหารราชการแผ่นดินหรือการร่างรัฐธรรมนูญ ตามเกณฑ์ที่ประธานรัฐสภากำหนด 8 คน
ขณะที่คุณสมบัติของผู้รับเลือกเป็น สสร. จากจังหวัด กำหนดให้ต้องมีสัญชาติไทยโดยการเกิด มีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี มีการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี เกิดในจังหวัดที่สมัคร มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่สมัครไม่น้อยกว่า 1 ปี เคยศึกษาในสถานศึกษาที่ตั้งในจังหวัดที่จะสมัครติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปีการศึกษา เคยรับราชการหรือปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ หรือเคยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านจังหวัดที่สมัคร ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี
ส่วนลักษณะต้องห้ามของผู้จะลงสมัครเป็น สสร. พบว่า ได้อิงคุณสมบัติของผู้จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส. ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และมีประเด็นที่น่าสนใจ คือ ห้าม สส. สว. หรือข้าราชการการเมืองลงสมัคร ห้ามคนที่ถูกระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งชั่วคราว หรือ ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งลงสมัคร
ทั้งนี้ ร่างแก้ไขเพิ่มเติมของพรรคร่วมรัฐบาลฉบับดังกล่าว กำหนดให้ต้องมีการเลือก สสร. ภายใน 90 วันนับแต่มีเหตุให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะทำหน้าที่รับสมัครบุคคลที่มีคุณสมบัติ โดยไม่จำกัดจำนวน จากนั้นให้ส่งให้ประธานรัฐสภา นัดประชุมเพื่อโหวตเลือกภายใน 20 วันนับจากที่ได้รับรายชื่อครบถ้วน ส่วนเกณฑ์การโหวตของสมาชิกรัฐสภานั้นกำหนดให้เลือกผู้สมัครจากจังหวัดต่างๆ จังหวัดละ 1 คน โดยให้ผู้ได้คะแนนสูงสุดได้รับเลือก นอกจากนั้นกำหนดให้ทำบัญชีสำรองจากผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดเรียงกัน 3 คน
ขณะที่การเลือกสสร. ในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญนั้น ให้สมาชิกรัฐสภาเลือกได้ตามจำนวนที่กำหนดไว้ สำหรับผู้ที่จะได้รับคัดเลือกให้นับเรียงลำดับจากผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด จนครบจำนวนที่กำหนดไว้ นอกจากนั้นให้ทำบัญชีสำรองประเภทละ 3 คนไว้ด้วย
สำหรับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในร่างของพรรคร่วมรัฐบาล กำหนดให้สสร. ตั้ง กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 45 คน โดยมาจากการเลือกกันเองของ สสร. จำนวน 30 คน และอีก 15 คนมาจากการแต่งตั้งบุคคลที่ไม่ได้เป็น สสร. แต่ต้องคำนึงถึงความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญในการทำหน้าที่
สำหรับเงื่อนไขของการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดย สสร. กำหนดให้ ต้องทำให้เสร็จภายใน 360 วัน นอกจากนั้นแล้วยังได้กำหนดเงื่อนไขสำหรับเนื้อหาของการร่างรัฐธรรมนูญ ห้ามเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเปลี่ยนแปลงรูปของรัฐ รวมถึงแก้ไขเพิ่มเติมหมวด 1 บททั่วไปและหมวด 2 พระมหากษัตริย์ของรัฐธรรมนูญ 2560
เมื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว ให้นำเสนอต่อรัฐสภาพิจารณาเห็นชอบ ซึ่งออกแบบการพิจารณาของรัฐสภา เป็น 3 วาระ ซึ่งนำเงื่อนไขของการรับหลักการและเห็นชอบในมาตรา 256 ที่ต้องได้เสียงสนับสนุนจาก สว. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 และ สส.ฝ่ายค้าน 20%มาบัญญัติไว้ด้วย
เมื่อรัฐสภาเห็นชอบต้องนำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไปทำประชามติภายใน 7 วัน ทั้งนี้ได้กำหนดให้รัฐสภามีอำนาจตีตกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หากพบเนื้อหาที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองหรือแก้ไขหมวด1 หมวด 2 สำหรับกรณีร่างรัฐธรรมนูญที่ตกไป กำหนดให้อำนาจ ครม. หรือ สส. จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของสภาฯ หรือ สว. และสว. ไม่น้อยกว่า1 ใน3 ของสองสภา เสนอญัตติต่อรัฐสภาให้มีมติจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้อีก 1 ครั้ง
ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า จะนำเอกสารร่างให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องตามขั้นตอนและกฎหมาย โดยในวันที่ 25 ก.ย.นี้ เวลา 14.00 น.จะนัดประชุมวิป 3 ฝ่าย เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการกำหนดวันอภิปรายนโยบายของรัฐบาล พร้อมกันนี้จะนำเรื่องการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเข้าสู่ที่ประชุมในคราวเดียวกันด้วยว่าจะกำหนดวันใดเป็นวันประชุม และจะนำร่างของพรรคการเมืองใดเป็นร่างหลัก