นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (30 ก.ย.) ภายหลังการประชุมรัฐสภาจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาโครงการ "คนละครึ่ง" และอื่น ๆ อีกหลายวาระ อาทิ การอนุมัติใช้งบประมาณปี 2568
ส่วนการแต่งตั้งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไม่ทราบว่าจะทันหรือไม่ เพราะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติก่อน
สำหรับการอภิปรายนโยบายรัฐบาลในวันนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องดีในการรับฟังข้อเสนอ แต่กังวลกรณีที่มีการอภิปรายข้อมูลเท็จซ้ำ ๆ เช่น เรื่องฮั้วเลือก สว., ที่ดินเขากระโดง และกัญชาเสรี ซึ่งเป็นเรื่องเดิมที่พูดแล้วพูดอีก ทั้งที่มีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว และทำหูทวนลม ต้องการแค่ได้พื้นที่ความสนใจ (แอร์ไทม์) มีวาทกรรมมากว่าข้อเท็จจริง
นายอนุทิน กล่าวว่า ผู้อภิปรายบางคนสามารถให้คะแนนเต็มได้ แต่บางคนให้ไม่ให้ เช่น พ.ต.ท.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ เพราะนำเรื่องเท็จออกมาพูด
พร้อมย้ำว่าการประชุมสภาฯ ครั้งนี้จะรับฟังคำแนะนำที่ดี ซึ่งจดไว้ทุกอย่างและสามารถตอบได้ โดยเฉพาะการตอบคนที่พูดอย่างมีเหตุผล มีจริยธรรม คุณธรรม และตั้งใจพูดเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ส่วนการนำเรื่องไม่มีสาระมาพูด หรือ สร้างวากรรม ทำให้ดิสเครดิตรัฐบาล ก็ป่วยการที่จะตอบ เพราะเคยตอบไปหลายรอบแล้ว ไม่มีหน่วยงานใดตอบได้ดีเท่าหน่วยงานราชการแล้ว เพราะได้แสดงหลักฐานทุกอย่างไปหมดแล้ว
กรณีที่มีวาทกรรมเรื่องฝ่ายค้ำฝ่ายแค้น นายอนุทิน เชื่อว่า ประชาชนจะสามารถแยกแยะและดูออก และตนเองจะตอบในประเด็นที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ข้อมูลใดไม่เป็นประโยชน์จะไม่ตอบ เพื่อไม่ให้เปลืองพื้นที่สมองของประชาชน
นายอนุทิน กล่าวถึงที่ฝ่ายค้านอภิปรายโจมตีเรื่องแก้ปัญหายาเสพติดและอาชญากรรมไซเบอร์ที่ยังไม่มีความชัดเจน ว่า ความจริงแล้วบางอย่างไม่จำเป็นต้องบรรจุไว้ในนโยบายรัฐบาล ซึ่งการปราบปรามยาเสพติดหรือแสกมเมอร์ ไม่ใช่นโยบาย แต่ต้องลงมือปฏิบัติ ซึ่งรัฐบาลจะต้องไปเร่งรัดกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงอีกหลายหน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้อยู่ ซึ่งต้องเข้มข้นในจุดนี้