นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ซึ่งเป็น 1 ใน 44 สส.พรรคก้าวไกล ที่ถูกร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ไต่สวนความผิดเกี่ยวกับมาตรฐานจริยธรรมกรณีเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือไม่ ยืนยันว่า ไม่กังวลอะไรในกระบวนการไต่สวน และพยายามทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดในการสู้คดี พิสูจน์เจตนาการกระทำว่าการเสนอแก้ไขกฎหมายทำไปเพื่อวัตถุประสงค์อะไรที่ทำอย่างเต็มที่ และยืนยันถึงความบริสุทธิ์ใจ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้ทำลงไปนั้นไม่ได้แอบแฝงซ่อนเร้น ดำเนินการอย่างโปร่งใสตามอำนาจและหน้าที่ของ สส. ที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งมีกระบวนการในสภาผู้แทนราษฎรมีขั้นตอนในการดำเนินการ
นายรังสิมันต์ ย้ำว่า อย่าเพิ่งตั้งธงว่า 44 สส.จะโดนฟันแน่ หากเชื่อว่ามีธง นั่นหมายความว่ารู้ว่ามีคำตอบล่วงหน้า สะท้อนเห็นว่ากระบวนการยุติธรรมนั้นไม่มีอยู่จริง พรรคประชาชนไม่เคยมีการสนทนา ไม่ว่าจะซีเรียสหรือไม่ซีเรียสกับฝั่งพรรคภูมิใจไทยเลยล้านเปอร์เซ็นต์ที่จะให้ช่วยเหลือ สส.ทั้ง 44 คน พอได้เห็นบทเรียนการสร้างดีลเมื่อมีกระบวนการกล่าวหาก็ต้องดำเนินการ
"ในเรื่องการสู้คดี เราสู้คดีอย่างเต็มที่ มีบุคคลถูกกล่าวหาค่อนข้างเยอะ เราเองต้องการมีสิทธิ์ในการชี้แจงอย่างเต็มที่ ที่ผ่านมาแฟร์ ๆ กับ ป.ป.ช.ที่ให้เวลาพอสมควรก็ดำเนินการไป ผมคิดว่าอย่าเพิ่งไปตั้งธงว่าเราจะโดนแน่นอน อย่าเพิ่งไปตั้งธงแบบนั้น" นายรังสิมันต์ กล่าวนายรังสิมันต์ กล่าวว่า การทำนิติสงครามอาจทำให้ต้องย้อนกลับมองประเทศของเราว่าทำลายบรรยากาศอย่างร้ายแรง และทำให้เสียโอกาสอย่างไร จึงหวังว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และ ป.ป.ช.จะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่เป็นการทำหน้าที่เพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมือง เป็นการกลั่นแกล้งใคร