เพื่อไทย จี้รัฐบาลใช้มาตรการเชิงรุกยุค "แพทองธาร" ปราบสแกมเมอร์-ขบวนการฟอกเงิน

ข่าวการเมือง Thursday October 16, 2025 16:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พรรคเพื่อไทย นำโดย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ อดีต รมช.คลัง, นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรค เป็นต้น ร่วมกันแถลงการณ์ "ข้อเสนอมาตรการเชิงรุก ในการร่วมปราบปรามสแกมเมอร์ ขบวนการฟอกเงิน และอาชญากรรมข้ามชาติ"

โดยระบุว่า ปัญหาสแกมเมอร์ อาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเคยได้รับการแก้ไขจนเห็นผลเป็นรูปธรรม ในรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร กลับมาเป็นปัญหาสำหรับพี่น้องประชาชน และประเด็นใหญ่ระดับโลกอีกครั้ง สืบเนื่องจากกรณีที่มีการกดดันจากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และเกาหลีใต้ เดินหน้าปราบปราม ติดตามขบวนการสแกมเมอร์ในกัมพูชาอย่างจริงจัง

พรรคเพื่อไทย ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเดินหน้ามาตรการเชิงรุก ยกระดับมาตรการปราบปรามขบวนการดังกล่าว เพื่อไม่ให้ประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของอาชญากรรม ดังนี้

1. ดำเนินมาตรการ 3 ตัด คือ "ตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต ตัดการขนส่งน้ำมัน" เพื่อสกัด Scam Center ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยอาจพิจารณายกระดับจากโมเดลความร่วมมือระหว่างประเทศไทย-จีน-เมียนมา ที่สำเร็จมาแล้วในสมัยรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร

2. กลับมาเข้มงวดเรื่องการปิดเส้นทางธรรมชาติ เพื่อป้องกันการหลอกลวงเอาคนไทยข้ามไป และการลักลอบหนีกลับเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมาย

3. เร่งสานต่องานจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมา และเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศที่เกี่ยวข้องอื่น เพื่อตั้งศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และค้ามนุษย์นานาชาติ (ศกค.) ระดมความร่วมมือจากนานาประเทศ ปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ข้ามชาติอย่างเป็นรูปธรรม แก้ไขขั้นเด็ดขาด ช่วยเหลือเหยื่อกลับบ้าน

4. เจรจากดดันเพื่อให้กัมพูชายอมรับเงื่อนไขข้อที่ 3 คือ การร่วมปราบปรามสแกมเมอร์ ซึ่งอยู่ในเงื่อนไข 4 ข้อเดิมตามมติ สมช. สมัยรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ที่ได้เคยเสนอไว้ ไปผลักดันผ่านการลงนาม Peace Agreement ในการประชุม ASEAN SUMMIT ที่จะถึงในวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์

5. ให้รัฐบาลกลับมาจริงจังเรื่องของการระงับบัญชีม้า และซิมที่ผูกกับโมบายแบงก์กิ้ง ที่ได้รับการพิสูจน์ยืนยันว่าเกี่ยวข้อง ตลอดจนการปราบปรามเว็บพนัน และเว็บหลอกลวงผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันมิจฉาชีพออนไลน์ในประเทศ โดยในรัฐบาลชุดที่แล้ว ได้ใช้มาตรการนี้ในการระงับบัญชีม้ากว่า 500,000 บัญชี และป้องกันการสูญเสียได้กว่า 20,000 ล้านบาท

6. ควรจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ ตาม พ.ร.ก.มาตราการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 และเร่งออกกฎหมายลำดับรอง เพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.ก.ป้องกันและปรามอาชญากรรมด้านไซเบอร์ และ พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล

7. ให้รัฐบาลใช้ศูนย์ AOC 1441 ที่ได้ตั้งขึ้นในรัฐบาลชุดที่แล้ว เพื่อเป็น One Stop Service ในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการหลอกลวงออนไลน์แบบเร่งด่วน เพื่อให้เรื่องร้องทุกข์ เรื่องระงับธุรกรรมทางการเงิน และเรื่องการประสานงานกับธนาคารและตำรวจไซเบอร์ กลับมามีประสิทธิภาพอีกครั้ง

"พรรคเพื่อไทย ขอเรียกร้องให้รัฐบาลอนุทิน เอาผลประโยชน์ของประเทศชาติ และพี่น้องประชาชน เป็นตัวตั้งในการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา แบบหวังผลจริง ด้วยการเดินหน้ามาตรการปราบปรามสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง ให้เป็นยุทธศาสตร์หลักในการกดดันกัมพูชา เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนอย่างถูกต้อง ไม่ได้เพียงแต่ทำงานตามกระแส เพียงเพื่อหวังคะแนนนิยม และผลทางการเมืองเท่านั้น"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ