นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ในการประชุม กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ วันนี้ มีการเชิญบุคคลต่าง ๆ เช่น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรมว.เกษตรและสหกรณ์, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ, นายวรภัค ธันยาวงษ์ อดีตรมช.คลัง เข้าให้ข้อมูลต่อกรรมาธิการ
โดยจะเป็นการพิจารณาต่อในเรื่องสแกมเมอร์ ตัวละครสำคัญไม่ว่าจะเป็นนายเบญจมิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ (เบน สมิธ) โดยจะพยายามดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบในเรื่องเส้นทางการเงิน ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นหนึ่งในหลักฐานสำคัญ ที่จะนำไปสู่การปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า วันนี้ข้อมูลหลายอย่างมีความชัดเจนขึ้น ตอนนี้แก๊งสแกมเมอร์ไม่ได้ทำอะไรแบบเปิดเผย ไม่ว่าจะเป็นการเอาเงินเหยื่อหรือการฟอกเงินมีลักษณะการใช้นอมินี เอาบางบุคคลมาบังหน้า ดังนั้น การจัดการกับแก๊งเหล่านี้ ถ้าหน่วยงานรัฐไม่ไปดูเรื่องฟอกเงิน และเส้นทางการเงิน แทบเป็นไปไม่ได้ที่เราจะเอาผิดกับคนเหล่านี้ ซึ่งเราจึงเห็นการฟอกเงินผ่านธุรกิจต่าง ๆ
"การฟอกเงินจะไม่ร้ายแรงขนาดนี้ ถ้าไม่ได้รับการปกป้องจากอำนาจรัฐ เราก็มีข้อสงสัยว่าบุคคลต่าง ๆ ของรัฐบาล เข้าไปเกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์ หรือการฟอกเงินได้อย่างไร" นายรังสิมันต์ กล่าวทั้งนี้ ในห้องประชุมมีการชี้แจงว่า นายวรภัค แจ้งว่าไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ เนื่องจากอยู่ในช่วงการรวบรวมเอกสารข้อมูลพยานหลักฐาน เพื่อประกอบข้อเท็จจริงให้ครบถ้วน รวมทั้งเตรียมดำเนินคดีต่อผู้หมิ่นประมาท ส่วนนางนฤมล แจ้งติดภารกิจ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา และประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ส่วน ร.อ.ธรรมนัส ไม่มีหนังสือแจ้ง
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การเชิญบุคคลเหล่านี้มาชี้แจงใน กมธ. คือโอกาสที่ดีในการชี้แจงข้อมูลให้ได้รับทราบ ซึ่งถ้าบริสุทธิ์ใจ ก็ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลในการมาชี้แจงกับเรา อย่างไรก็ดี การใช้อำนาจเรียกไม่ได้เป็นสิ่งที่ตนตัดสินใจคนเดียว ต้องหารือในกรรมาธิการและลงมติ แต่คิดว่าคนที่ไม่มาชี้แจงกับกรรมาธิการก็จะเสียโอกาส และทำให้เกิดคำถามต่อสังคมว่ากลัวอะไร โดยเฉพาะคนที่มีตำแหน่งอยู่ในรัฐบาล
"จะรอดูว่าหากนายอนุทินฯ ไม่ทำอะไรเลย แบบนี้แปลว่าอะไร ความรับผิดชอบต่อประชาชนอยู่ที่ไหน ก็จะย้อนกลับไปที่นายอนุทิน ซึ่งเป็นเบอร์หนึ่งของฝ่ายบริหาร" นายรังสิมันต์ ระบุพร้อมเชื่อว่าก่อนสิ้นปีนี้ รัฐบาลจะต้องมีความชัดเจนในการปราบปรามกระบวนการสแกมเมอร์ ซึ่งเป็นไปตามปฏิญญาสันติภาพไทย-กัมพูชาที่ได้ลงนามไว้
ส่วนกรณีที่จะมีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า จะเสนอญัตติโดยหยิบยกปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมกับตั้งคำถามไปยังรัฐบาลถึงการแก้ไขปัญหา เนื่องจากรัฐบาลประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ แต่ในทางปฏิบัติกลับไม่มีความชัดเจน โดยจะมีข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ที่จะนำไปสู่การแก้ไข ก่อนที่จะปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร พร้อมหวังว่าในช่วงที่ปิดสมัยประชุม รัฐบาลจะใช้เวลาปราบปรามสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก