"สุริยะใส"วิพากษ์รัฐบาลตั้ง กยอ.แสดงว่าไม่เข้าใจพระราชดำรัสในหลวง

ข่าวการเมือง Tuesday November 8, 2011 16:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน(การเมืองสีเขียว) เขียนบนเว็บไซต์ทวิตเตอร์วิพากษ์รัฐบาลถึงการแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์การฟื้นฟูและอนาคตประเทศไทย(กยอ.) ที่มีนายวีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นประธาน ที่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่เข้าใจถึงกระแสพระราชดำรัสของในหลวงเมื่อเดือน ก.ย.38 และไม่เปิดรับฟังความเห็นจากประชาชนก่อน ซึ่งอาจนำไปสู่การบริหารจัดการที่ล้มเหลวซ้ำซาก

"รัฐบาลควรทำความเข้าใจในกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2538 โดยเฉพาะพระราชดำรัสว่าด้วย Flood Way หรือ "ทางน้ำ" นั้นมีนัยยะสำคัญคือ การจัดระบบผังเมือง และระบบอุตสาหกรรมไม่ให้ไปขวางทางน้ำ แต่ กยอ.กลับมีแนวคิดเดินหน้าสร้างเมกะโปรเจกต์ในบริเวณเดิมอีกต่อไป" นายสุริยะใส ระบุ

การแต่งตั้ง กยอ.โดยไม่มีสัดส่วนจากนักวิชาการ ภาคประชาสังคม และโดยเฉพาะผู้ประสบอุทกภัย ทำให้ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนที่เป็นรูปธรรม ขาดมิติด้านทรัพยากร สิ่งแวดล้อม เกษตรกรรม เน้นด้านเศรฐกิจ เน้นบทบาทของภาครัฐ หรือกำหนดธง กำหนดแผนจากข้างบน ทั้งที่ปรากฎชัดว่าการกำหนดนโยบายสาธารณะจากบนลงล่าง เป็นปัจจัยของการพัฒนาที่ล้มเหลวและส่งผลให้เกิดภัยธรรมชาติรุนแรงและถี่ขึ้น

ขณะที่บทบาทและอำนาจหน้าที่ของ กยอ.ไม่ใช่แค่การฟื้นฟู แต่มีบทบาทในการกำหนดอนาคตประเทศไทย ซึ่งเป็นโจทย์ที่ใหญ่ ฉะนั้นควรรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน

"หมดยุค ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ แต่คนไทยรับกรรม การสร้างอนาคตประเทศ คนไทยควรมีส่วนร่วมในการคิด ทำ และรับผิดชอบร่วมกัน ในฐานะ partnership หรือ หุ้นส่วน" นายสุริยะใส ระบุ

การประกาศแผนฟื้นฟูฯ ในขณะที่พื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ และนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง รวมทั้งพื้นที่สำคัญของภาคเกษตรและโรงงานอุตสาหกรรมในเขตตะวันตก และประชาชนนับล้านคนกำลังสุ่มเสี่ยงและมีโอกาสจมน้ำสูญเสียพอๆ กับส่วนอื่นๆ ก่อนหน้านี้ จึงเป็นการจัดลำดับความสำคัญของปัญหาที่ไม่ถูกต้อง เป็นเรื่องผิดที่ผิดเวลา

ขณะที่การสร้างความเชื่อมั่นของรัฐบาลในวันนี้ ไม่ใช่ให้รอวันหน้า แต่คือการพิสูจน์ศักยภาพและความสามารถในการแก้ปัญหาที่เผชิญอยู่ในวันนี้ เพราะถ้ารัฐบาลล้มเหลวในสายตาประชาชน รัฐบาลก็ย่อมไม่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ความรู้สึกร่วมในการกำหนดอนาคตร่วมกับรัฐบาลก็ย่อมเป็นไปได้ยาก คล้ายสภาวะ "สร้างดาวคนละดวง" เหมือนที่ผ่านๆ มา

สำหรับกิจกรรมของกลุ่มกรีนนั้นกำลังประสานเครือข่ายประชาชน ชุมชนทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ที่ประสบอุกภัย เพื่อถอดบทเรียนและกำหนดแผนฟื้นฟูร่วมกัน โดยจะสร้างเครือข่ายผู้ประสบภัยและเตรียมระดมเมล็ดพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ อาสาสมัครช่างไม้ ช่างปูน ช่างไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อฟื้นฟูพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย

สำหรับนายสุริยะใสเคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่(กมม.) ก่อนที่จะแยกตัวออกมาเนื่องเกิดปัญหาแตกคอกับนายสมศักดิ์ โกศัยสุข ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา และก่อนหน้านี้ก็รับหน้าที่เป็นผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ