ปฏิญญาสะบั้น! อนุทิน ลั่น "จำไม่ได้" ไทยปิดประตูเจรจา หลังกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน

ข่าวการเมือง Monday December 8, 2025 15:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา โดยระบุว่า จะไม่มีการเจรจาอีกแล้ว สิ่งที่ฝ่ายไทยตอบโต้กัมพูชาไปนั้นเพื่อแสดงให้เห็นชัดเจนว่ากัมพูชาไม่ควรเข้ามาคุกคามอธิปไตยของไทย ดังนั้น จากนี้ไป จะไม่มีการเจรจาใด ๆ เพราะหากจะให้หยุดสู้รบกัน กัมพูชาจะต้องปฏิบัติตามแนวทางที่ไทยกำหนดเท่านั้น

"คงไม่ให้เจรจาแล้ว ถ้าเขาดำเนินการกับเราถึงขนาดนี้ และเราได้ทำการตอบโต้ให้เขาเห็น เที่ยวนี้น่าจะชัดเจนแล้วว่าการตอบโต้ของเราไม่ใช่การส่งสัญญาณใด ๆ แต่เป็นการตอบโต้เพื่อให้เห็นว่า เขาไม่ควรจะเข้ามาคุกคามอธิปไตยของไทยแล้ว ดังนั้น การเจรจาก็คงไม่มีแล้ว จากนี้ไป ถ้าจะหุยดุสู้รบกัน กัมพูชาต้องทำตามสิ่งที่ประเทศไทยกำหนด" นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายอนุทิน ตอบคำถามที่ว่าปฏิบัติการทหารจะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อให้มีข้อยุติหรือไม่ว่า กองทัพมีแนวทางที่จะดำเนินการแล้ว พร้อมย้ำว่าเป้าหมายสำคัญคือการรักษาอธิปไตย เกียรติภูมิ และความปลอดภัยของประชาชน ส่วนจะต้องใช้ระยะเวลาเท่าใดไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นเรื่องของยุทธศาสตร์ หากเปิดเผยไปจะไม่เป็นผลดีต่อประเทศ เพราะในเรื่องการสู้รบ การป้องกันประเทศ และเรื่องความพร้อมนั้น ถือเป็นสิ่งที่ต้องเก็บเป็นความลับไว้มากที่สุด

สำหรับการอพยพประชาชนในพื้นที่ชายแดนนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ได้กำชับและได้เรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดน ให้ดูแลพี่น้องประชาชนที่ต้องอพยพไปยังศูนย์พักพิง ด้วยมาตรฐานที่สูงสุดเท่าที่จะทำได้ โดยให้ผู้ว่าฯ ชายแดน 7 จังหวัดใช้งบประมาณที่ประกาศเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย และให้ดำเนินการอย่างเต็มที่

กรณีที่มีสื่อต่างประเทศรายงานว่าประเทศไทยเป็นฝ่ายรุกรานกัมพูชาก่อนนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะต้องเชื่อข้อมูลของประเทศไทย เพราะประเทศไทยได้พิสูจน์ให้เห็นในทุกเวทีแล้วว่า เรารักสงบอยู่ตลอดเวลา และเป็นฝ่ายที่ถูกคุกคาม ถูกรุกราน และถูกยั่วยุ ซึ่งได้มีการแสดงหลักฐานให้เห็นชัดเจน อีกทั้งได้ยื่นหนังสือไปยังองค์กรนานาชาติ ซึ่งมั่นใจว่าไทยสามารถพิสูจน์และยืนยันได้ว่าเราไม่ได้เป็นฝ่ายรุกรานใคร แต่ขณะเดียวกัน ก็จะไม่ยอมให้ใครรุกรานแน่นอน

ส่วนเหตุการณ์ครั้งนี้ จะมีผลต่อระยะเวลาในการยุบสภาให้เร็วขึ้น หรืออาจยืดออกไปหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ออกคำสั่งและข้อสั่งการในฐานะรัฐบาล ผ่านกระบวนการที่ถูกต้องตามกฏหมายที่ให้ผู้ปฏิบัติ คือ กองทัพและฝ่ายปกครองได้ดำเนินการด้วยความมั่นใจ เพื่อความสบายใจว่า รัฐบาลให้การสนับสนุนทุกรูปแบบ ในการรักษาธิปไตยของประเทศ ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุด

  • ไม่จำเป็นต้องแจ้ง "ทรัมป์-อันวาร์" เชื่อไม่กระทบเจรจาภาษีสหรัฐ

เมื่อถามถึงปฏิญญาร่วม (Joint Declaration) ระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ได้ทำร่วมกันไว้ที่ประเทศมาเลเซีย ว่าจะยังมีอยู่หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ตอบสั้น ๆ ว่า "ไม่มี จำไม่ได้"

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ในรอบนี้ ไม่ได้มีการพูดคุยกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างไทย-กัมพูชา พร้อมย้ำว่าไม่กังวลว่าจะกระทบต่อการเจรจาภาษีกับสหรัฐ

ส่วนกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความกังวลเกี่ยวกับการปะทะด้วยอาวุธระหว่างกองกำลังกัมพูชา-ไทยนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ถ้าจะบอกให้ประเทศไทยทำอะไร ก็วิงวอนว่าคนที่เกี่ยวข้องหรือเป็นพยาน ควรจะไปพูดกับผู้ที่รุกรานประเทศไทย ให้หยุดการกระทำเช่นนั้นเสียก่อน ไม่ใช่มาบอกประเทศไทย ถ้าจะบอกให้หยุด ต้องไปบอกคนที่รุกรานเราก่อน

ส่วนที่กัมพูชาออกมากล่าวอ้างว่าไทยเป็นฝ่ายเปิดฉากก่อนนั้น นายกรัฐมนตรี ย้อนถามกลับทันทีว่า "คุณเชื่อกองทัพไทย หรือเชื่อศัตรู คุณเป็นคนไทย กองทัพไทยเป็นกองทัพที่เชื่อถือได้ รัฐบาลไทย เชื่อกองทัพไทย" นายกรัฐมนตรี กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ