การประชุมรัฐสภาวาระพิเศษเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในวันนี้ โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานในที่ประชุม นายภราดร ปริศนานันทกุล รมว.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และส.ส.พรรคภูมิใจไทย ได้หารือและเสนอญัตติด่วน เพื่อให้รัฐสภามีมติเพื่อยื่น ครม. เรื่องการทำประชามติครั้งที่ 1 เพื่อไม่ให้เสียเวลารอการลงมติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในวาระ 3 โดยอธิบายเพิ่มเติมว่า หลังเสร็จการพิจารณาในวาระที่ 2 เพื่อทำคำถามประชามติครั้งที่ 1 และลงมติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในวาระที่ 3 ช่วงปลายเดือน ธ.ค. 68 หรือต้นเดือน ม.ค.69 อาจพิจารณาเรื่องคำถามส่งให้รัฐบาลถามคำถามประชามติคำถามที่ 2 สามารถทำได้ โดยพรรคภูมิใจไทย ได้เสนอญัตติไว้แล้ว รอบรรจุระเบียบวาระและพิจารณาหลังจากที่ลงมติในวาระ 2 เสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ (11 ธ.ค.)
ประธานรัฐสภา ได้แจ้งว่าหากยื่นญัตติเกี่ยวกับคำถามประชามติจะต้องมีการพิจารณาและขอมติจากที่ประชุมรัฐสภาหลังจากเสร็จสิ้นการโหวตในวาระ 2 และต้องหารือในวิป 3 ฝ่าย
ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.พรรคเพื่อไทย เห็นด้วยกับข้อเสนอของนายภราดร โดยกล่าวว่าตรงกันกับความเห็นของพรรคเพื่อไทย เพื่อเป็นการสร้างหลักประกันให้กับสังคมไทย โดยให้รัฐบาลส่งคำถามประชามติคำถามที่ 1 ไปยัง กกต.ทันที โดยไม่ว่ารัฐธรรมนูญที่กำลังพิจารณาอยู่นี้จะติดขัดหรือไม่ แต่สุดท้ายในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะต้องมีการทำประชามติถามครั้งที่ 1 ถามประชาชนว่าต้องการให้มีร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่
"สิ่งที่ประชาชนจะได้คือหลักประกันว่าหลังมีรัฐบาลชุดใหม่ มีรัฐสภาชุดใหม่แล้วยืนยันว่ากระบวนการในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะต้องเกิดขึ้น เพราะมีประชามติของประชาชน ในประเด็นนี้ได้เรียกร้องมาสักพักแล้ว ขณะนี้สมาชิกรัฐสภาเสนอที่ประชุมรัฐสภาว่าหลังจากพิจารณาจบวาระสอง จะขอพิจารณาวาระญัตติด่วนเพื่อส่งคำถามไปยังรัฐบาล โดยรัฐสภาส่งคำถามที่ 1 เพื่อให้รัฐบาลดำเนินการส่งต่อ กกต. ตรงนี้ไม่ขัดข้องสำหรับพรรคเพื่อไทย แต่เป็นการทำงานที่เกินกว่าความจำเป็นหรือไม่ เพราะอำนาจของรัฐมนตรีมีอยู่แล้ว"นายจุลพันธ์ เน้นย้ำว่า กฎหมายให้อำนาจ ครม.ดำเนินการได้เลย เหตุใดรัฐบาลยังไม่มีมติออกมาจากการประชุม ครม.เมื่อวานนี้ (9 ธ.ค.)
จากนั้นนายภราดร ลุกขึ้นชี้แจงว่าเรื่องการทำประชามติครั้งที่ 1 เห็นตรงกันว่า ครม. สามารถตั้งคำถามประชามติครั้งที่ 1 ได้ แต่ได้สอบถามทางกฤษฎีกา ที่ได้แจ้งแนวทางต่อ ครม.นอกรอบ โดยทักท้วงว่าขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ แม้กฎหมายประชามติจะอนุญาตให้ ครม.อนุญาตให้ทำได้ แต่ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญชี้แจงให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเริ่มต้นที่รัฐสภา
"ก็ควรที่จะให้รัฐสภาเสนอคำถามต่อ ครม. เพื่อให้ ครม.ดำเนินการต่อไป และส่งให้ กกต. ก็มีเท่านั้น เพื่อให้เกิดความรอบคอบ ความถูกต้อง กับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ครม.จึงจำเป็นต้องถามให้รอบคอบ ตามข้อเสนอแนะของกฤษฎีกา"