นางการดี เลียวไพโรจน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดใจถึงการตัดสินใจลงแคนดิเดตของพรรคว่า ได้ทำงานร่วมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคมาเป็นเวลานาน และที่สำคัญถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิต ในภาวะแบบนี้ที่เห็นว่าต้องทำอะไรสักอย่าง เพราะวันนี้ประเทศไทยอึดอัดกับภาวะที่ติดขัดไปหมด ทั้งรายได้ เศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นในประเทศ
"จริง ๆ ไม่ใช่คนการเมืองมาก่อน แต่ครั้งนี้ตัดสินใจแน่วแน่ว่า จะเอาความรู้ และประสบการณ์ที่มี มาช่วยประเทศสักครั้ง" นางการดี กล่าวทั้งนี้ ปฏิเสธที่เปรียบเทียบแคนดิเดตของพรรคประชาธิปัตย์ กับพรรคอื่นว่าพอสูสีกันหรือไม่ โดยกล่าวว่า ไม่อยากเทียบในลักษณะตัวบุคคลต่อบุคคล แต่มองว่า ประเทศต้องการอะไรมากกว่า และเลือกในทักษะที่เรามี ซึ่งแคนดิเดตของพรรคเป็นส่วนผสมที่กลมกล่อม และเชื่อมั่นว่า ประสบการณ์ที่มี และสิ่งที่เคยทำสำเร็จมาแล้ว การที่ทำเราทำเป็นจริงจะช่วยได้ และวันนี้ก้าวสู่ยุคดิจิทัล ตนก็น่าจะเป็นองค์ประกอบที่จะขับเคลื่อนในการแก้เศรษฐกิจฐานราก และนำพาประเทศไปสู่เศรษฐกิจใหม่

สำหรับบทบาทในช่วงเลือกตั้ง นางการดี กล่าวว่า บทบาทในช่วงหาเสียง ทั้งการเป็นรองหัวหน้าพรรคด้านเศรษฐกิจดิจิทัล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จะมีการพูดคุยตลอด ซึ่งตนจะช่วยให้ข้อมูลในการกำหนดนโยบาย และวิเคราะห์นโยบาย รวมถึงลงพื้นที่หาเสียงกับว่าที่ผู้สมัครของพรรคด้วย
"ถ้ามีโอกาสได้ทำงาน อยากให้มองประสบการณ์ที่ทำงานร่วมกันเป็นทีม สิ่งที่เป็นความงาม และความสนุกในการทำงาน คือ ทั้งแคนดิเดตทั้ง 3 คน ทำงานกันมานาน ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และร่วมกันผลักดันเรื่องสตาร์ทอัพ รวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งเราทำงานร่วมกันมา และมี DNA เหมือนกัน ในเรื่องความสุจริต และความตั้งใจในการทำงาน" นางการดี กล่าวพร้อมระบุว่า ในการผลักดันนโยบายต่าง ๆ นั้น จะไปดูว่า จุดเจ็บของประชาชนคืออะไร และผลักดันนโยบายแบบทางเศรษฐกิจ ที่มีตัวชี้วัดชัดเจน และเป็นที่ยอมรับในระดับโลก รวมถึงวัดผลจากการเติบโตของ GDP
สำหรับการนำเสนอนโยบายแก้ปัญหาหนี้สินประชาชนนั้น มองว่า การแก้หนี้ในระยะสั้น ต้องทำความเข้าใจถึงความต้องการที่แท้จริงของแต่ละบุคคล เพราะมีความต้องการไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นหนี้เกษตรกร หรือหนี้ของคนในเมือง หรือคนทำงานออฟฟิศ สิ่งสำคัญ คือ เราจะไปเร่งวิถีการสร้างรายได้ใหม่ให้มากขึ้น ให้ง่ายขึ้น และลดต้นทุนการใช้ชีวิตให้มากที่สุด