ภท.เสนอญัตติด่วนต่อสภาฯ ตั้งกมธ.ศึกษาแนวทางสร้างความปรองดองของคนในชาติ

ข่าวการเมือง Friday November 11, 2011 11:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) พร้อมด้วย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ได้ยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเสนอญัตติด่วนขอให้สภาผู้แทนราษฎรแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองของคนในชาติ โดยให้เหตุผลว่าความเห็นของคนในชาติเริ่มมีความเห็นแตกต่างกันตั้งแต่ปี 49 รวมทั้งในช่วงที่ประสบปัญหาอุทกภัยก็ยังมีความแตกแยกให้เห็นอยู่ ดังนั้นเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่สภาฯ ควรพิจารณาในการหาทางออกและสร้างความปรองดองร่วมกัน

ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย มองว่า ในช่วงประสบปัญหาอุทกภัยขณะนี้ยังเห็นถึงความรู้สึกของประชาชนที่ถูกแบ่งแยกสี และไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล ซึ่งความรู้สึกนี้อาจทำให้เกิดความแตกร้าวมากขึ้นอีก ดังนั้นจึงควรนำเรื่องนี้ไปสู่แนวทางการแก้ไขร่วมกันในการตั้งคณะกรรมาธิการจากทุกสีให้เข้ามามีส่วนร่วม เพื่อหาแนวทางในการสร้างความปรองดอง

ทั้งนี้นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ออกมารับหนังสือแทนประธานสภาฯ พร้อมระบุว่า จะนำเรื่องดังกล่าวบรรจุเข้าเป็นวาระในการประชุมสภาฯ สัปดาห์ถัดไป ขณะที่นายศุภชัย เชื่อว่า จะสามารถเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมสภาฯ ในวันพุธหน้า(16 พ.ย.)

อนึ่ง หนังสือดังกล่าวระบุว่า "ความขัดแย้งของประชาชนในชาติ อันมีเหตุมาจากความเชื่อและทัศนะทางการเมืองที่แตกต่างกัน เป็นปัญหาและอุปสรรค และตัวฉุดรั้งการพัฒนาประเทศไทย และทำให้ประเทศต้องสูญเสียโอกาสการพัฒนาในด้านต่างๆ อย่างมาก ทั้งสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง

และกระทั่งเกิดวิกฤติอุทกภัยครั้งใหญ่ในขณะนี้ ความขัดแย้งของคนในชาติก็เป็นอุปสรรคต่อการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่มีการแบ่งแยกฝักฝ่าย กล่าวหาการเกื้อกูลกันอย่างไม่เป็นธรรม นำไปสู่ความแตกแยกที่ลึกลงไปและเป็นวิกฤติซ้อนวิกฤติ จนทำให้ประชาชนไม่ไว้วางใจต่อการทำหน้าที่ของรัฐ โดยมีแนวโน้มที่จะเป็นปัญหาส่งผลให้การเยียวยาฟื้นฟูความเป็นอยู่ของประชาชน และความเสียหายของประเทศชาติเป็นไปได้ยากลำบาก

ดังนั้น พรรคภูมิใจไทย จึงขอเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองของคนในชาติ ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2551 ข้อ 41 และ ข้อ 42 เพื่อศึกษาแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมและเป็นไปได้ และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย สามารถเยียวยาสังคมไทยให้กลับมาเป็นสังคมรู้รักสามัคคี และทำให้ประชาชนในชาติสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข แม้จะมีความเห็น ความเชื่อ และอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกัน เพราะความสามัคคีของประชาชนจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่การพัฒนาประเทศไทยในทุกๆ ด้าน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ