นายกฯ เผยผลักดัน"กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี"เพื่อสร้างโอกาสให้สตรีมีบทบาทพัฒนาปท.

ข่าวการเมือง Monday March 26, 2012 10:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีภารกิจในการเดินทางไปกล่าวสุนทรพจน์ และบรรยายพิเศษเกี่ยวกับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีของไทย ให้แก่นักศึกษามหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสมาเยือนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ เพราะเป็นมหาวิทยาลัยผู้หญิงล้วนที่เก่าแก่และมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และได้ผลิตสตรีชั้นแนวหน้าของเกาหลีใต้ในหลายวงการ

"การมาเยือนเกาหลีใต้ของดิฉันครั้งนี้ดิฉันจึงตั้งใจที่จะมาที่นี่ มาเพื่อเรียนรู้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และปัจจัยที่นำไปสู่ความสำเร็จในการพัฒนาบทบาทของสตรี และเพื่อจะได้นำไปปรับใช้ในการพัฒนาการศึกษาของสตรีไทยด้วย" นายกรัฐมนตรี กล่าว

พร้อมระบุว่า เป็นผู้หนึ่งที่ชื่นชมการต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิของสตรีในเกาหลีใต้ที่ทำให้สถานภาพของสตรีมีความก้าวหน้ามากที่สุดประเทศหนึ่งในเอเชีย จากดรรชนีชี้วัดความเท่าเทียมทางเพศของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ(UNDP) ในปี 2011 ได้จัดอันดับให้เกาหลีใต้อยู่ในลำดับที่ 11 ของโลก ซึ่งตัวเลขนี้มีความสัมพันธ์กับระดับของการพัฒนาประเทศด้วย

โดยปรากฏว่ายิ่งสถานภาพของผู้หญิงอยู่ในอันดับที่สูงมากเท่าไร ระดับของการพัฒนาประเทศก็ยิ่งสูงตามเท่านั้น อันเป็นบทพิสูจน์สำคัญของพลังของสตรีในการช่วยพัฒนาประเทศที่ไม่สามารถมองข้ามได้ และทำให้เห็นชัดเจนว่าผู้หญิงมีศักดิ์ศรีและบทบาทไม่ด้อยไปกว่าผู้ชายในการทำงานและสร้างความเจริญแก่ประเทศ

นายกรัฐมนตรี ยังเล่าถึงสถานะภาพของสตรีของประเทศไทยด้วยว่า ผู้หญิงไทยมีสถานะไม่ได้แตกต่างจากผู้หญิงเอเชียทั่วไปและผู้หญิงเกาหลีใต้เท่าใดนัก กว่าที่ตนจะมายืนตรงนี้และเป็นนายกรัฐมนตรีก็ต้องยืนหยัดต่อสู้เพื่อให้ได้การยอมรับ และถึงแม้เมื่อดำรงตำแหน่งแล้วก็ยังต้องพิสูจน์ตนเองทุกวัน ดังนั้นเหตุผลหนึ่งที่สู่วงการเมือง คือต้องการผลักดันการสร้างโอกาสให้กับพี่น้องสตรีทุกวัยทุกคนไม่ว่าจะอยู่ในวงการธุรกิจ การเมืองหรืออื่นใดก็ตาม และในการที่จะใช้โอกาสนั้นสร้างสถานภาพทางเศรษฐกิจที่มั่นคงตลอดจนการดูแลครอบครัวและตนเองให้มีความสุข

ขณะที่ประเทศไทยวันนี้มีรัฐธรรมนูญที่ประกันสิทธิของหญิงชายอย่างเท่าเทียมกัน มีการจัดทำแผนพัฒนาสตรีแห่งชาติมีการออกมาตรการทางกฎหมายเพื่อรองรับหลายฉบับ แต่โอกาสและบทบาทของสตรียังสามารถก้าวไกลไปกว่าที่ปรากฏเป็นลายลักษณ์อักษร รัฐบาลจึงได้กำหนดนโยบายสำคัญและเร่งด่วนเพื่อส่งเสริมบทบาทสตรี ด้วยการจัดตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการลงทุน พัฒนาอาชีพ สร้างงานสร้างรายได้ และความรู้ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ผู้หญิงทุกคน ตลอดจนองค์กรและเครือข่ายสตรีสามารถใช้เงินกองทุนเพื่อนำไปเสริมสร้างสวัสดิภาพและสวัสดิการของสตรี รวมทั้งนำไปสนับสนุนในการแก้ไขปัญหาของสตรี อาทิ ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว การช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ และการถูกเลือกปฏิบัติด้วยเหตุผลทางเพศ

"กองทุนจะเปิดโอกาสให้ผู้หญิงในทุกระดับไม่ว่ายากดีมีจน ในเมืองหรือในชนบทเข้ามามีส่วนร่วมดิฉันภูมิใจที่จะรายงานให้ทราบว่า หลังจากกองทุนตั้งมาได้เพียง 1 เดือน มีผู้หญิงไทยทั่วประเทศเข้ามาเป็นสมาชิกแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน โดยตั้งเป้าว่าต้องการให้ผู้หญิงไทยเข้าเป็นสมาชิกให้ได้มากที่สุด เพราะเชื่อว่าโอกาสที่เปิดขึ้นจากการมีกองทุนจะทำให้ผู้หญิงไทยมีเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของตนเพื่อประโยชน์ของครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติต่อไป" นายกรัฐมนตรี กล่าว

พร้อมระบุว่า เมื่อวานนี้ได้มีโอกาสหารือกับนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ โดยได้แจ้งแก่ท่านว่า ประเทศไทยได้เข้าร่วมโครงการ Every Woman Every Child (EWEC) ภายใต้แผนยุทธศาสตร์โลกสำหรับสุขภาพของสตรีและเด็ก ซึ่งเป็นโครงการภายใต้ความริเริ่มของท่านเลขาธิการสหประชาชาติ ในนามของประเทศไทยได้มอบคำมั่นแสดงเป้าหมายของการพัฒนาสุขภาพของสตรีในประเทศไทย เพื่อยืนยันว่ารัฐบาลไทยมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสตรี และพร้อมที่จะร่วมมือกับสหประชาชาติในการบรรลุซึ่งเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ

ในโอกาสดังกล่าวยังได้แสวงหาความร่วมมือกับสหประชาชาติให้มาช่วยพัฒนาการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีของไทย โดยได้เชิญให้องค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ เข้ามาเป็นที่ปรึกษาของคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อนำประสบการณ์และข้อเสนอแนะมาใช้ประโยชน์ต่อไปด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ