สวนดุสิตโพลเผยส่วนใหญ่ภาพลักษณ์สภาเสื่อมจากเหตุวุ่นวายพิจารณากม.ปรองดอง

ข่าวการเมือง Saturday June 2, 2012 11:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

"สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เผยผลสำรวจกรณีการประชุมพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา และได้เกิดปัญหาความวุ่นวายระหว่างที่มีการประชุมขึ้น จนเป็นกระแสการวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ทั้งของฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และประธานสภา และมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐสภาไทยพบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการอภิปราย ร่าง พ.ร.บ. ปรองดอง มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐสภาไทย 77.34% เพราะรัฐสภาเป็นสถานที่อันทรงเกียรติ การแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมทำให้เห็นถึงความแตกแยกมากกว่าการปรองดอง มีผลต่อความเชื่อมั่นทั้งของคนไทยและต่างชาติ ฯลฯ

จากสถานการณ์การอภิปราย ร่าง พ.ร.บ. ปรองดอง ประชาชนคิดว่าจะทำให้การปรองดองเกิดขึ้นไม่ได้ 50.56% เพราะต่างฝ่ายต่างถือประโยชน์ของตนเองเป็นหลัก, มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก และไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ฯลฯ

แต่ 32.29% ไม่แน่ใจ เพราะความขัดแย้งมีความรุนแรงมากขึ้น,แนวทางการปรองดองยังไม่ชัดเจน, ต่างฝ่ายต่างรักพวกพ้องตนเองมากจนเกินไป ฯลฯ ในอีกด้านมองว่า เกิดขึ้นได้ 17.15% เพราะถ้าทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกันอย่างจริงจัง คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมและประเทศชาติเป็นสำคัญ ฯลฯ

ทั้งนี้ สวนดุสิตโพลได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่ติดตามข่าวสารการประชุมดังกล่าว ทุกสาขาอาชีพ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยการลงพื้นที่ภาคสนาม และการโทรศัพท์สัมภาษณ์ จำนวนทั้งสิ้น 1,374 คน ระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม — 1 มิถุนายน 2555

จากการสำรวจพบว่า ความคิดเห็นของประชาชนต่อการทำหน้าที่ของฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และประธานสภา ในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ มองในมุมฝ่ายรัฐบาล 46.38%พยายามที่จะหาทางออกให้กับพรรคพวกของตนเองโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติอย่างแท้จริง , 33.33% ได้ทำหน้าที่ของตนเองในการผลักดันให้มีการพิจาณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้อย่างเร่งรีบ และ 20.29% รักพวกพ้องมากเกินไป/ หลงกับอำนาจในเสียงข้างมาก

ในมุมฝ่ายค้าน 41.90% เห็นว่า ใช้วาจา และพฤติกรรมที่รุนแรง ใช้อารมณ์ โดยไม่รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น, 39.52% มีความพยายามในการทำหน้าที่ของตนเอง และตรวจสอบการทำหน้าที่ของรัฐบาล และ 18.58% เห็นว่าไม่ได้ทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง

ในส่วนประธานสภา 39.95% เห็นว่าไม่มีความเด็ดขาด สุภาพเกินไป ไม่สามารถควบคุม ส.ส.ในสภาได้, 33.58% ไม่มีความเป็นกลางอย่างแท้จริง และ 26.47% มีความพยายามในการทำหน้าที่ของประธานอย่างเต็มที่แล้ว

          ทั้งนี้ ประชาชนคิดว่า “ทางออกของความขัดแย้ง" ที่เกิดขึ้นในรัฐสภาควรแก้ไขอย่างไร ผลสำรวจ 46.09% ให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติอย่างจริงจัง และเคารพในข้อบังคับ กฎระเบียบ ของรัฐสภา ,36.02%    เปิดใจให้กว้าง รับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ใช้เหตุผล ใช้ข้อมูลข้อเท็จจริงให้มากกว่านี้ และ 17.89%    เห็นให้ถอน พ.ร.บ.ปรองดอง ออกไปก่อนเพื่อพิจารณาใหม่ให้รอบคอบก่อนนำเสนอในที่ประชุม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ