พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานกิจการโทรคมนาคม(กทค.)กล่าวว่า ขณะนี้ กทค.อยู่ระหว่างเตรียมออกใบอนุญาตให้บริการ 3G กับผู้ที่ชนะการประมูล ภายใต้แนวทางเพื่อคุ้มครองผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชนทั้งในระดับชาติและระดับทัองถิ่น
ประกอบด้วย 1.จะกำกับดูแลอัตราค่าบริการทั้งประเภทเสียงและข้อมูลของบริการ 3G ให้ลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 15-20% ของค่าบริการในปัจจุบัน 2. จะกำกับดูแลเรื่องคุณภาพบริการโทรคมนาคมประเภทข้อมูลสำหรับโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่อย่างเคร่งครัดและควบคุมอย่างต่อเนื่อง 3.กำกับให้ผู้ได้รับใบอนุญาตทำแผน CSR และแผนคุ้มครองผู้บริโภคก่อนให้บริการ รวมทั้งให้มีมาตรการติดตามการดำเนินการของผู้รับใบอนุญาตให้เป็นรูปธรรม
4.ตรวจสอบพฤติกรรมการเสนอราคาของผู้เข้าร่วมประมูลในระหว่างการประมูลคลื่นความถี่ เมื่อวันที่ 16 ต.ค ที่ผ่านมา ก่อนให้ใบอนุญาต 5.จะมีการปรับปรุงกระบวนการรับเรื่องและพิจารณาเรื่องร้องเรียน ตามประกาศ กทช.เรื่อง การรับเรื่องร้องเรียน และกระบวนการพิจารณาเรื่องร้องเรียน พ.ศ.2549 โดยเน้นกระบวนการในการพิรณาและแก้ปัญหาของประชาชนให้ทันท่วงที
และ 6.จะมีการใช้กระบวนการไก่เกลี่ยข้อพิพาท ตามระเบียบ กสทช.ว่าด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมและผู้ร้องเรียน พ.ศ.2555 ให้เกิดประสิทธิภาพ และสร้างความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ทั้งนี้ การดำเนินการในข้อ 1-3 ผู้ผ่านการประมูลจะต้องรับเงื่อนไขดังกล่าวก่อนให้บริการ
"ขณะนี้ทั้ง 6 ข้อ กสทช.ได้มีการดำเนินการในรายละเอียดก่อนได้รับใบอนุญาต เพื่อให้มีการรับรองตามกำหนดการที่ตั้งไว้ ทั้งนี้ที่ผ่านมา กทค.ไม่ได้เร่งรีบ และขอให้มั่นใจว่ากระบวนการทุกกระบวนการอยู่ในความระมัดระวัง โดยในการตรวจสอบข้อ 4 นั้นจะมีการถามผู้เข้าร่วมการประมูลและตรวจสอบสำนักงานระบบซอฟแวร์บริษัทที่ปรึกษา ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการทวงถามแล้ว แต่เมื่อข่าวออกไป เพื่อให้เกิดความชัดเจนจึงจะตั้งคณะทำงานและตรวจสอบ โดยส่วนหนึ่งจะมีทั้งตัวแทนจากสำนักงาน กสทช. ตัวแทนอัยการ เพื่อมาสอบถามการประมูลอีกครั้งเพื่อความมั่นใจในการให้ใบอนุญาต และเพื่อให้สังคมเกิดความสบายใจ ทั้งนี้ จะต้องเร่งตรวจสอบโดยเร็วที่สุด" พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าว
กรอบการให้ใบอนุญาตแก่ผู้ร่วมประมูลนั้นกำหนดไว้คือ 90 วัน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยมีการตรวจสอบและตอบคำถามได้ทุกคำถามก็จะสามารถให้ใบอนุญาตได้ อย่างช้าสุดไม่น่าจะเกิน 22 วัน หรืออาจเร็วกว่านั้น เนื่องจาก กทค.จะมีการประชุมทุกสัปดาห์อยู่แล้ว ทั้งนี้ ในส่วนของการตรวจสอบจะต้องทำเงื่อนไขที่เอกชนจะต้องรับในอัตราค่าบริการและกรอบความเป็นไปได้ 15-20% ที่ตัองลดลง โดยจะเชิญทั้ง 3 รายมาหารือและตกลงร่วมกันด้วย โดยระหว่างตรวจสอบก่อนออกใบอนุญาตตามกรอบ 90 วันนี้ เอกชนทั้ง 3 รายจะต้องส่งแผนการลงทุนโครงข่ายให้ กทค.พิจาณาด้วย
ขณะที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า การกำหนดอัตราค่าบริการที่จะต้องลดลง 15-20% นั้น ได้คำนวณจาก 1.เงินที่ประมูล 2.ต้นทุนในการขยายโครงข่าย และ 3.อัตราค่าบริการ โดยในอนาคตอาจปรับลดลงก็ได้ ขึ้นอยู่กับกลไกลการแข่งขันของตลาดด้วย
ทั้งนี้ หากค่าบริการ 3G ลดลง 15% ของค่าบริการปัจจุบันภายใน 15 ปี โดยการลดลงของอัตราค่บริการจะส่งผลให้ผู้ใช้บริการ 3G โดยรวมได้รับประโยชน์หรือสามารถประหยัดค่าใช้จ่าย คิดเป็นมูลค่าเฉลี่ยประมาณ 4,571.25 ล้านบาท/เดือน หรือ 54,855 ล้านบาท/ปี และคิดเป็นผลประโยชน์ทั้งหมด 822,825 ล้านบาทในระยะเวลาสัญญา 15 ปี
ขณะที่ หากอัตราค่าบริการลดลง 20% จากปัจจุบันที่คิดค่าเฉลี่ยของโอเปอร์เรเตอร์ทั้ง 3 ราย อยู่ที่ 899 บาท/เดือน นั้น จะทำให้ผู้ใช้บริการจะได้รับผลประโยชน์โดยรวมประมาณ 6,095.22 ล้านบาท/เดือน หรือ 73,142.64 ล้านบาท/ปี และคิดเป็นประโยชน์ตามสัญญา 15 ปีคือ 1,09 ล้านล้านบาท