นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่า การที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตั้งข้อหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเพื่อแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) มีความชัดเจนว่าเจตนาทำตามใบสั่งทางการเมือง เพราะตั้งข้อกล่าวหาที่ขาดความชัดเจน ไม่ครบถ้วน ไม่ครอบคลุมรายละเอียด เพราะการออกคำสั่งของนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ในขณะนั้น เนื่องมาจากมีการชุมนุมที่มีความรุนแรง มีการใช้อาวุธ มีการก่อความไม่สงบเผาบ้านเผาเมือง เป็นการชุมนุมที่มิชอบด้วยกฎหมายตามคำวินิจฉัยของศาล
"ข้อกล่าวหานั้นมีเจตนาเพิ่มความผิดให้นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเอากรรมเดียวแต่แยกออกเป็นจำนวนรายคดี หลายๆคดี เพื่อให้บุคคลได้รับโทษเป็นรายคดี จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลกำชับเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินคดีอย่างเป็นธรรม ไม่เช่นนั้นแล้วเท่ากับว่ารัฐบาลคิดแก้แค้น ไม่ได้คิดแก้ไข ไม่เป็นผลดีต่อบ้านเมือง และจะเกิดปัญหาขึ้นไม่มีที่สิ้นสุด" นายองอาจ กล่าว
ทั้งนี้ ในวันที่ 19 ธ.ค.55 ทราบว่าจะมีการนัดประชุมของดีเอสไอ อัยการ และตำรวจ เพื่อพยายามแจ้งข้อกล่าวหาต่อนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ข้อหาพยายามฆ่า ต่อกรณีที่มีผู้บาดเจ็บ 2,000 คน โดยจะมีการแยกข้อหาเป็นรายคดี ทั้งที่เป็นมีการออกคำสั่งเพียงครั้งเดียว จึงขอเรียร้องไให้ดีเอสไอ อัยการ และตำรวจ ยึดหลักความเป็นธรรมต่อผู้ถูกกล่าวหา และดำเนินการโดบหลักนิติธรรม เพื่อไม่ให้เป็นการกลั่นแกล้งใส่ร้ายเกินความเป็นจริง