"เป็นแค่การเริ่มพูดคุย และหากไม่เกิดผลในทางบวกเราอาจจะหยุดเท่านี้ก็ได้ แต่ถ้าการพูดคุยแล้วผลดีขึ้น เข้าสู่กระบวนการการเจรจาและการทำงานต่างๆ ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า การหารือกันไม่ใช่เป็นการรองรับสถานะของกลุ่ม BRN เพราะภาครัฐจะต้องดำเนินการพูดคุยกับทุกกลุ่ม รัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และการพูดคุยก็เพื่อความเข้าใจปัญหาที่แท้จริงและหาทางออกไม่ได้เลือกเฉพาะกลุ่ม ส่วนจะมีความมั่นใจได้มากน้อยแค่ไหนกับวิธีการดังกล่าวนั้นคงต้องถามทาง สมช. เพราะเป็นขั้นตอนของ สมช. ในส่วนของภาครัฐเราจะมีระดับของนโยบายและเจ้าหน้าที่ในทางปฏิบัติ
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังไม่เชื่อว่าเหตุการณ์จักรยานยนต์บอมบ์ที่ จ.นราธิวาส เมื่อเช้านี้จะเป็นการตอบโต้การลงนามความร่วมมือดังกล่าว
ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหาว่า การดำเนินการที่ผ่านมาเป็นเกมการเมืองของรัฐบาลและฝ่ายของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่ต้องการเรียกคะแนนในการเลือกตั้งนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า คงมองเป็นเรื่องการเมืองไม่ได้ เพราะปัญหานี้เป็นเรื่องระดับประเทศ พร้อมขอร้องไม่อยากให้มองเจตนารมณ์เป็นอย่างอื่น เพราะเจตนารมณ์ที่แท้จริงคืออยากเห็นการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ ซึ่งคงไม่มีใครแลกที่จะเอาประเด็นการเมืองเป็นตัวนำโดยไม่คำนึงถึงผลตามยุทธศาสตร์ตามความมุ่งหมายของความสงบในพื้นที่
นายกรัฐมนตรี ยังยินดีหากฝ่ายค้านจะเข้ามาร่วมให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับรัฐบาลในเรื่องการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งที่ผ่านมาได้มอบหมาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้เชิญฝ่ายค้านเข้ามาร่วมทำงานโดยให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพราะถือว่าวาระปัญหาความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นเป็นปัญหาของทุกคน และอย่ามองเป็นประเด็นการเมือง