นายกฯ พอใจผลรณรงค์ประหยัดพลังงานของส่วนราชการสามารถลดลงได้ตามเป้า 15%

ข่าวการเมือง Thursday March 21, 2013 15:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การรณรงค์ประหยัดพลังงานของหน่วยงานราชการในช่วงที่ผ่านมาประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย โดยสามารถลดการใช้พลังงานลงได้ 15% ตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) กำหนดไว้

"ขอขอบคุณหน่วยงานราชการที่ร่วมกันรณรงค์ช่วยประหยัดพลังงาน จากการรายงานของกระทรวงพลังงานนับตั้งแต่ได้มีมติคณะรัฐมนตรีให้หน่วยงานราชการร่วมกันรณรงค์ประหยัดพลังงาน ปรากฏว่าตัวเลขเฉลี่ยการใช้พลังงานของแต่ละกระทรวงลดลง 15% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้" นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความขอบคุณหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงที่ทำงานร่วมกับภาคเอกชน ให้ขอความร่วมมือช่วยกันรณรงค์ประหยัดพลังงาน เพื่อช่วยทำให้การสำรองพลังงานไฟฟ้าสามารถรองรับปริมาณการใช้ไฟฟ้าได้ดีขึ้น ทำให้เกิดความมั่นใจมากขึ้น และในระยะยาวมอบหมายให้กระทรวงพลังงานทำงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทยในฐานะกำกับดูแลการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) เพื่อลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาที่ประชาชนมีความต้องการใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก ซึ่งเป็นปัญหาในทุกวันนี้ ขอให้บูรณาการทำงานร่วมกันช่วยหาวิธี และส่งเสริมให้ผู้ใช้ไฟฟ้าลดการใช้ไฟฟ้าลง

ส่วนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ขอฝากให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันดูแลเรื่องความปลอดภัย อำนวยความสะดวกเรื่องการสัญจรให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งเป็นวันหยุดยาว และมีจำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้นในแต่ละปี ให้มีความปลอดภัย ให้มีความสุขจริงๆ ไม่รู้สึกกังวลในเรื่องดังกล่าวตลอดเทศกาลสงกรานต์

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์(ไซเตส) ครั้งที่ 16 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ขอให้ช่วยกันดูแลในเรื่องการลักลอบค้าสัตว์ โดยเฉพาะงาช้าง ซึ่งช้างเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย ขอให้ทุกหน่วยงานร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ต้องการให้ไทยเป็นทางผ่านของการลักลอบค้าสัตว์

สำหรับกรณีการลักลอบฆ่าแม่ช้าง ณ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่ผ่านมา ได้สั่งการเน้นย้ำเร่งให้มีการติดตามขบวนการลักลอบฆ่าช้างตั้งแต่ต้นเหตุจนถึงปลายเหตุ ในส่วนของพื้นที่เสี่ยงต่อการลับลอบฆ่าช้างได้กำชับให้เจ้าหน้าที่หามาตรการดูแลอย่างรัดกุมแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ