โฆษกเพื่อไทยเผยนายกฯพร้อมนำทีมแจงร่าง พ.ร.บ.กู้เงินต่อสภาฯ 28-29 มี.ค.

ข่าวการเมือง Friday March 22, 2013 11:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย คาดว่าสภาผู้แทนราษฎรจะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ในช่วงวันที่ 28-29 มี.ค.56 ซึ่งทางรัฐบาลมีหน้าที่จะเข้าชี้แจงต่อรัฐสภา โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี, นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง รวมถึงนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เป็นผู้นำในการชี้แจง
"คาดว่าประมาณวันที่ 28-29 มี.ค.นี้ ซึ่งพ.ร.บ.นี้เป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะต้องชี้แจง ทางท่านนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รวมถึงรัฐมนตรีอื่นๆที่ดูแลเศรษฐกิจ ทั้งรัฐมนตรีคลัง รัฐมนตรีคมนาคม ก็ต้องเข้าชี้แจงเรื่องนี้ รวมถึงข้อกฎหมายต่างๆก็จะมีรัฐมนตรีด้านกฎหมายเข้าชี้แจงเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นเรื่องของฝ่ายบริหารที่นำเสนอ" โฆษก พรรคเพื่อไทย กล่าวกับ "อินโฟเควสท์"

พร้อมกับยืนยันว่า พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทนี้ต่างกับ พ.ร.ก.กู้เงินในรัฐบาลที่ผ่านมา ตรงที่ พ.ร.บ.นี้มีการตรวจสอบรายละเอียดจากฝ่ายนิติบัญญัติผ่านกระบวนการทางรัฐสภา ทั้งส.ส.และส.ว. พร้อมทั้งยังมีรายละเอียดในโครงการ การจัดทำแผนแต่ละปีงบประมาณประกอบด้วย

ทั้งนี้ ขั้นตอนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวจะเป็นไปตามกระบวนการเสนอกฎหมาปกติ ต้องผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาก่อน ซึ่งขั้นตอนต่อไปก็จะอยู่ในระยะเวลาการดำเนินการ โดยจากการสำรวจความคิดเห็นส่วนหนึ่งของพรรค จากภาคประชาชน ภาคเอกชน และภาคธุรกิจ เห็นด้วยกับการออก พ.ร.บ.2 ล้านล้านบาท เนื่องจากเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ สามารถเปลี่ยนโฉมให้กับประเทศไทยอย่างก้าวกระโดด นำไปสู่การปรับโครงสร้างระบบขนส่งมวลชน คมนาคม ระบบร่าง ที่ใช้งบถึง 1.6 ล้านล้านบาท ซึ่งจะเป็นการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)ปี 58 ด้วย

“ผมเห็นว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้คนส่วนใหญ่เห็นด้วย จะมีแต่พรรคฝ่ายค้านที่อาจจะท้วงติง เราก็ต้องชี้แจงกันไป" นายพร้อมพงศ์ ระบุ

สำหรับการชี้แจงต่อรัฐสภาและอภิปรายในประเด็นต่าง ๆ นั้น วิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านต้องไปหารือกัน ถึงสัดส่วนในการอภิปรายว่าจะดำเนินการตามรูปแบบเดิมหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่จะให้เวลาฝ่ายค้านเป็นผู้อภิปรายมากกว่าฝ่ายรัฐบาลอยู่แล้ว

"การอภิปรายก็จะแบ่งสัดส่วนโดยวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านต้องไปหารือกัน และคงแบ่งสัดส่วน แต่ส่วนใหญ่จะให้ฝ่ายค้านเยอะอยู่แล้ว รัฐบาลก็รองลงมา และเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ก็คือให้เวลาพรรคฝ่ายค้านเยอะอยู่แล้ว ก็ถือว่าให้การตรวจสอบเยอะหน่อย แต่วิปต้องไปหารือ"นายพร้อมพงศ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ