ฝ่ายค้านสับรัฐบาลกู้ 2 ล้านลบ.ลงทุนสนองคนรวย-เลือกปฏิบัติ

ข่าวการเมือง Friday March 29, 2013 12:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกนก วงศ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) อภิปรายในระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทว่า จากตัวเลขการลงทุนรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ 3.8 แสนล้านบาท และจะชำระคืนภายใน 50 ปีนั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านรถไฟในกระทรวงคมนาคมให้ข้อมูลว่าหากรถไฟความเร็วสูงมีผู้โดยสาร 49,600 หมื่นคนต่อวัน ระยะทาง 700 กิโลเมตร เดินทางตลอด 365 วัน การคำนวณพบว่าหากแต่ละปีมีดอกเบี้ย 2% ค่าโดยสารจะอยู่ที่ 1,800 บาท/เที่ยว/คน แต่หากดอกเบี้ย 3% ค่าโดยสารจะเป็น 2,000 บาท/เที่ยว/คน
"ถ้าค่าโดยสาร 1,800 บาท/เที่ยว/คน ก็จะมีแต่นักธุรกิจหรือคนรวยที่ได้ขึ้น คนจนจะไม่ได้ขึ้น การลงทุน 2 ล้านล้านจะได้ประโยชน์เฉพาะคนรวยเท่านั้น หวังว่าการลงทุนเศรษฐกิจจะดีขึ้น แต่ความเหลื่อมล้ำจะมีมากขึ้นด้วย เรื่องนี้ไม่ใช่ความกล้าหาญของรัฐบาล แต่เป็นความบ้าบิ่นมากกว่า ไม่ควรเอาประเทศมาใช้ความบ้าบิ่น เพราะจะเป็นอันตรายต่อประเทศ"นายกนก กล่าว

ขณะที่นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป.กล่าวว่า การจัดสรรเงินลงทุนระบบรางเป็นการจัดสรรตามภาคนิยม ไม่มีการจัดลำดับความสำคัญตามความจำเป็นเร่งด่วนและไม่มีการนำหลักวิชาการมาใช้ อย่างไรก็ตาม สนับสนุนการสร้างรถไฟรางคู่ เพราะเป็นห่วงว่ารถไฟความเร็วสูงจะมีผู้ใช้บริการน้อย อีกทั้งมีคู่แข่งที่ราคาถูกกว่าคือ สายการบินต้นทุนต่ำ จึงอยากให้รัฐบาลพัฒนาระบบรางคู่จำนวน 3,039 กิโลเมตรให้มีคุณภาพดี หากเหลือเงินก็ค่อยไปทำรถไฟความเร็วสูง

ทั้งนี้ การสร้างรถไฟความเร็วสูงมีตารางสรุปผลการศึกษาของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) กระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) พบว่าผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ(EIR) เส้นทางกทม.-หนองคาย น่าจะสร้างเป็นลำดับแรก แต่รัฐบาลกลับสร้างเส้นทาง กทม.-เชียงใหม่เป็นลำดับแรก

"อยากให้คนอีสานจำไว้ว่ารัฐบาลชุดนี้รักคนภาคอีสานน้อยกว่าคนภาคเหนือ"นายสามารถ กล่าว

ทั้งนี้ เส้นทาง กทม.-เชียงใหม่ หากเชื่อมกับจีนไม่ได้ตามที่รัฐบาลระบุว่าจะเชื่อมไทยสู่โลกก็จะได้เพียง กทม.-เชียงใหม่ เท่านั้น พ.ร.บ.กู้เงินดังกล่าวจะถูกข้อครหาว่าเป็นฉบับบ้านเกิดเมืองนอนของฉัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ