"นพดล" ยันพร้อมสู้คดี ย้ำเจตนาปกป้องดินแดน 4.6 ตร.กม. หวังศาลให้ความเป็นธรรม

ข่าวการเมือง Friday April 26, 2013 12:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนพดล ปัทมะ ในฐานะอดีตรมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ตามที่ศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งให้รับคำฟ้องในคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ยื่นฟ้องตนในข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีลงนามแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา เมื่อ 18 มิ.ย.51 โดยไม่ผ่านการพิจารณาของรัฐสภานั้น ตนพร้อมจะไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองว่าไม่เคยมีเจตนาฝ่าฝืนมาตรา 190 ของกฎหมายรัฐธรรมนูญปี 50 เพราะมาตรา 190 มีลักษณะไม่ชัดเจนคลุมเครือจนต้องมีการแก้ไขถึง 2 ครั้ง

นอกจากนั้น อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมายในปี 51 ยังแนะนำว่าแถลงการณ์ร่วมไม่เข้าข่ายมาตรา 190 เพราะไม่เป็นหนังสือสัญญาและไม่มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขต แต่ศาลรัฐธรรมนูญไปเติมคำว่า "อาจ" เข้าไปในมาตรา 190 และตัดสินว่าแม้คำแถลงการณ์ร่วมไม่มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขต แต่"อาจมีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขต" ซึ่งถือว่าตัดสินเกินรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้วุฒิสภาเคยลงมติไม่ถอดถอนตน และอัยการสั่งไม่ฟ้องตนแล้ว เพราะเห็นว่าตนไม่ได้กระทำความผิด แต่ ป.ป.ช.ยังอยากจะฟ้องเองโดยตั้งทนายฟ้อง และการบรรยายฟ้องก็เต็มไปด้วยความเท็จและเป็นการใส่ร้าย

นายนพดล กล่าวย้ำว่า คำแถลงการณ์ร่วมที่ทำไปได้กระทำเพื่อปกป้องดินแดนพี้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร ทำร่วมกับเพื่อนข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ, สภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งนายวีระชัย พลาศรัย ก็ยืนยันว่ากัมพูชาได้ขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทและไม่รุกล้ำแนวเขตแดนตามมติ ครม. ดังนั้นแนวทางของแถลงการณ์ร่วมจึงเป็นการปกป้องดินแดนพื้นที่ทับซ้อน

นอกจากนี้ คณะทนายที่ต่อสู้คดีในศาลโลกก็เห็นว่าคำแถลงการณ์ร่วมเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประเทศไทยและต้องการใช้ยื่นเพื่อต่อสู้คดี แต่ศาลปกครองได้ตัดสินให้แถลงการณ์ร่วมเป็นโมฆะไปแล้วจึงไม่สามารถใช้อ้างอิงได้

"ผมพร้อมที่จะไปต่อสู้คดีในศาลเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ เพราะผมปฏิบัติหน้าที่โดยชอบ และทำไปเพราะมีเจตนาปกป้องดินแดน 4.6 ตารางกิโลเมตร และหวังว่าศาลจะให้ความยุติธรรม" นายนพดล ระบุ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ