โดยข้อสรุปที่ได้มี 5 ประเด็น คือ กรณีโฉนดชุมชน เห็นชอบให้ดำเนินโฉนดชุมชน โดยสามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐไปชั่วคราวก่อนจนกว่ากระบวนการพิจารณาของส่วนราชการหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่ตามแต่กรณีจะมีข้อยุติ ส่วนเขื่อนปากมูล ครม.จะพิจารณาในการประชุมวันที่ 28 พ.ค.นี้
นายประชา คาดว่า การพูดคุยวันนี้จะเป็นที่พอใจของผู้ชุมนุม และตนเองได้ประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ, บริษัท ขนส่ง จำกัด(บขส.) และกรมทางหลวง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ชุมนุมเดินทางกลับภูมิลำเนาของตนเอง
สำหรับบันทึกข้อตกลงระหว่างขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม(ขปส.)กับตัวแทนรัฐบาล มีสาระสำคัญ ได้แก่
1.จะเร่งรัดเสนอเรื่องโฉนดชุมชน โดยพิจารณาเห็นชอบในหลักการของนโยบายการดำเนินงานโฉนดชุมชน ซึ่งให้ใช้ประโยชน์ที่ของรัฐไปก่อนได้จนกว่ากระบวนการพิจารณาของหน่วยงานที่รับผิดชอบจะมีผลและกรณีเขื่อนปากมูลให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาขึ้นใหม่ โดยให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในวันที่ 28 พ.ค.56
2.เร่งรัดคณะกรรมการอำนวยการบูรณาการนโยบายเพื่อฟื้นฟูวิถีชีวิตและแก้ปัญหากลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลและคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของ ขปส.ทั้งที่ดำเนินการได้ข้อยุติและยังไม่มีข้อยุติ นำเสนอให้ ครม.พิจารณาวันที่ 28 พ.ค.เช่นกัน
3.รัฐบาลจะเร่งรัดดำเนินการตามนโยบายด้านที่ดินและทรัพยากรตามที่ได้แถลงต่อรัฐสภาอย่างเป็นรูปธรรมและเร่งด่วน โดยระหว่างดำเนินการให้มีการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชะลอการดำเนินการที่เป็นสาเหตุความขัดแย้งหรือก่อให้เกิดความเดือดร้อน
4.ขอให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของ ขปส.จัดการประชุมอย่างน้อย 3 เดือน/ครั้ง ส่วนอนุกรรมการให้มีการประชุมอย่างน้อย 2 เดือน/ครั้ง
5.แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาของ ขปส. โดยมีนายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย เป็นประธานกรรมการ และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธานกรรมการ และตัวแทน ขปส.เป็นกรรมการ