นายกฯ อินเดีย มีกำหนดเยือนไทย 30- 31 พ.ค.หารือทวิภาคี-ขยายความร่วมมือ

ข่าวการเมือง Tuesday May 28, 2013 11:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงการต่างประเทศ รายงานว่า นายมันโมฮัน สิงห์ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐอินเดีย มีกำหนดเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล ระหว่างวันที่ 30-31 พ.ค.56 ตามคำเชิญของน.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ รัฐบาลไทยจะจัดพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ณ ทำเนียบรัฐบาล และจะมีการหารือทวิภาคีระหว่างนายกรัฐมนตรีสองฝ่ายเพื่อสานต่อความร่วมมือที่ผู้นำทั้งสองประเทศได้ประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันเมื่อเดือน ม.ค.55 ที่จะยกระดับความสัมพันธ์ไปสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) ระหว่างกัน บนพื้นฐานของหลักประชาธิปไตย การเคารพสิทธิมนุษยชน และผลประโยชน์ร่วมในการส่งเสริมการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยนายกรัฐมนตรีทั้งสองจะทบทวนพัฒนาการของความร่วมมือที่มีอยู่ และพิจารณาสาขาความร่วมมือใหม่ ซึ่งทั้งสองประเทศมีผลประโยชน์ร่วมกัน

สำหรับการเยือนประเทศไทยครั้งนี้ เป็นการเยือนในระดับทวิภาคีอย่างเป็นทางการครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีอินเดีย โดยก่อนหน้านี้ นายสิงห์ได้เคยเดินทางมาประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอด BIMSTEC ครั้งที่ 1 เมื่อปี 47 และเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 15 เมื่อปี 52

ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางไปเยือนอินเดียสองครั้งในปี 55 โดยเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน ม.ค.ในฐานะแขกเกียรติยศงานเฉลิมฉลองวันสถาปนาสาธารณรัฐของอินเดีย (Republic Day) และเพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดียสมัยพิเศษ เมื่อเดือน ธ.ค.

การแลกเปลี่ยนการเยือนแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับอินเดีย ทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี โดยเฉพาะการสะท้อนถึงนโยบาย“มองตะวันตก"(Look West)ของไทยที่มุ่งเน้นการกระชับความร่วมมือกับอินเดียและเอเชียใต้ และนโยบาย“มองตะวันออก"(Look East) ของอินเดียที่ต้องการกระชับความร่วมมือกับไทยและอาเซียน โดยเฉพาะการมุ่งเสริมสร้างความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน และการเชื่อมโยง(connectivity)เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ และของภูมิภาคโดยรวม ความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่างทั้งสองประเทศจะเป็นประโยชน์ต่อความร่วมมือในระดับภูมิภาคและระดับสากล ในประเด็นที่มีผลประโยชน์ร่วม รวมถึงประเด็นความมั่นคงด้านอาหารและพลังงานเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ไม่ว่าในกรอบองค์การสหประชาชาติ กรอบพหุภาคี และกรอบภูมิภาค


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ