"สบอช. มีข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการยื่นข้อเสนอโครงการของบริษัท K-water ยืนยันว่าข้อมูลที่ ผอ.สมาพันธ์สิ่งแวดล้อมเกาหลีใต้ ออกมาเปิดเผยไม่เป็นความจริง K-water เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจของเกาหลีใต้ที่รัฐบาลถือหุ้นอยู่ 100% และรัฐบาลเกาหลีก็เป็นผู้ค้ำประกัน และสถานทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทยก็รับรองสถานภาพของบริษัทฯ ด้วย"นายสุพจน์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทที่เข้ายื่นประมูลโครงการนี้ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน มีผลงานย้อนหลัง 10 ปี มีมูลค่าก่อสร้างไม่น้อยกว่า 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว K-water มีผลงานสูงถึง 682,840 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเข้าเงื่อนไข
นอกจากนี้ K-water ยังได้รับการจัดอันดับผลประกอบการจาก มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ ในระดับ A1 และสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ส (S&P) ในระดับ A รวมทรัพย์สินในการประกอบธุรกิจทั้งสิ้น 23,425 พันล้านวอน หรือ 650,000 ล้านบาท มีรายได้ 6,325.8 พันล้านวอน หรือประมาณ 176,000 ล้านบาท ซึ่งยืนยันว่าข้อมูลที่เชื่อถือได้
นายสุพจน์ กล่าวว่า การดำเนินโครงการดังกล่าวย่อมมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ก็ต้องฟังเสียงของประชาชนส่วนใหญ่เป็นหลัก สำหรับขั้นตอนการคัดเลือกผู้รับเหมาของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย(กบอ.) มีความละเอียดรอบคอบ
"ไม่เข้าใจว่าเหตุใดนักวิชาการเอ็นจีโอเกาหลีใต้จึงออกมาคัดค้านในช่วงนี้ หากไม่มาชี้แจงก็อาจมองว่าเป็นการยอมรับข้อมูลของสมาพันธ์สิ่งแวดล้อมเกาหลีใต้ ทุกบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกสามารถตรวจสอบได้ ทั้งนี้ สบอช.กำลังปรึกษากับทีมกฎหมายว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว" นายสุพจน์ กล่าว
ส่วนกรณีที่ปรากฎภาพถ่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีนายกรัฐมนตรี ร่วมกับผู้บริหารของ K-eater อาจเป็นการเอื้อประโยชน์ในการประมูลโครงการดังกล่าวนั้น นายสุพจน์ กล่าวว่า ทุกบริษัทที่ผ่านการคัดเลือกเข้ารับงานจะต้องผ่านขั้นตอนและระเบียบที่วางไว้ และการคัดเลือกจะพิจารณาจากกรอบแนวความคิดเป็นหลัก ไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง