ส่วนที่เป็นห่วงกันว่าจะมีการทุจริตคอร์รัปชั่นเพราะทั้ง 2 โครงการใช้งบประมาณก้อนใหญ่นั้น ต้องดูว่าโครงการเหล่านี้นโยบายดีหรือไม่ ถูกต้องเหมาะสมกับประเทศหรือไม่ หากเห็นว่าดีก็ต้องช่วยกันสนับสนุน และหากเป็นห่วงว่าจะมีการคอร์รัปชั่นก็ต้องช่วยกันตรวจสอบเอาคนผิดมาลงโทษ ไม่ใช่กลัวเกิดคอร์รัปชั่นแล้วยกเลิกโครงการไปเลย อย่างนี้คิดผิด วันนี้รัฐบาลเปิดโอกาส เชิญชวนภาคประชาชน เอกชนเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ ตรวจสอบและมาร่วมจัดซื้อจัดจ้างทุกโครงการ
"ถ้าสุดท้ายแล้วมักเอาผิดไม่ได้เพราะมีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็ต้องแก้ปัญหา เพราะประเทศไทยเราเป็นอย่างนี้มาหลายยุคหลายสมัย ไม่ใช่ปล่อยให้ปัญหานี้ยืดยาวต่อไป คอยดูว่าใครทำโครงการอะไรก็กล่าวหาไว้ก่อนว่าทุจริตคอรัปชั่น จะได้ไม่ต้องทำโครงการ อย่างนี้เท่ากับเป็นการหยุดความเจริญเติบโตของประเทศ ทำร้ายประชาชน" นายนิวัฒน์ธำรง กล่าว
ด้านนายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวว่า ยืนยันว่า เท่าที่ดูตามข้อกฎหมายใน พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทที่ผ่านมาไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
ขณะที่ การประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองให้ความเห็นเกี่ยวกับคดีบริหารจัดการน้ำ ที่มีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการฯ ในวันนี้ มีความเห็นให้อำนาจกับสำนักงานอัยการสูงสุดในการพิจารณาว่าจะอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางที่กำหนดให้รัฐบาลรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในทุกแผนงานก่อสร้างก่อนเซ็นสัญญาตามโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท โดยให้ดำเนินการตามมติ ครม.ที่ให้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนตามคำสั่งของศาลปกครอง พร้อมทั้งจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการไปบางส่วนแล้ว