ปชป.แถลงการณ์จี้เพื่อไทยจำนำข้าวราคาเดิมต่อ,แต่ยันยกเลิกแน่หากเป็นรัฐบาล

ข่าวการเมือง Friday July 5, 2013 16:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ยืนยันหากได้เป็นรัฐบาลจะยกเลิกโครงการรับจำนำข้าว แล้วกลับไปใช้แนวทางการประกันรายได้ตามเดิม เนื่องจากเห็นว่าเป็นประโยชน์และครอบคลุมมากกว่า โดยได้ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนที่ชัดเจนต่อการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์

"ขอยืนยันว่า หากมีโอกาสได้เป็นรัฐบาลจะยกเลิกโครงการรับจำนำข้าว และกลับไปใช้การประกันรายได้ เพราะเป็นประโยชน์และครอบคลุมมากกว่า" นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษก ปชป.กล่าว

ส่วนกรณีที่กระทรวงพาณิชย์ออกมายืนยันตัวเลขขายข้าวแบบจีทูจีในช่วง 6 เดือนที่เหลือจะช่วยให้สามารถระบายข้าวในสต็อกรัฐบาลได้มากขึ้นนั้น จากการตรวจสอบพบว่ามีประเทศจีนเพียงประเทศเดียวที่ทำสัญญาจะซื้อจะขายข้าวไทย แต่ก็ไม่ระบุปริมาณ ราคา และเวลาแน่นอน นอกนั้นประเทศอื่นไม่มีสัญญาซื้อขายทั้งสิ้น ซึ่งหากนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ มีสัญญาขายข้าวแล้วก็ขอให้เปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อเป็นหลักประกันว่าไม่ได้นำเงินที่ไหนมาใช้ในโครงการรับจำนำข้าวตันละ 15,000 บาท ที่ขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 15 ก.ย.56 เพราะขณะนี้ขาดทุนไปแล้วประมาณ 2.6 แสนล้านบาท

โฆษก ปชป.กล่าวว่า การรับจำนำข้าวแตกต่างจากการประกันรายได้ เพราะหากคำนวณผลขาดทุนอยู่ที่ 2.4 แสนล้านบาท การประกันรายได้ซึ่งใช้งบปีละ 6 หมื่นล้านบาท จะจ่ายให้ชาวนามีรายได้เพิ่มถึง 4 เท่าจากโครงการจำนำข้าวของรัฐบาล เพราะใช้เงินครึ่งหนึ่งของโครงการรับจำนำจะให้รายได้กับเกษตรกรมากกว่าการจำนำแน่นอน อีกทั้งยังครอบคลุมชาวนามากกว่า ไม่กระทบกลไกค้าข้าว และปิดช่องโหว่ในการทุจริตได้มากกว่าด้วย

"พรรคฯ ไม่เห็นด้วยกับการจำนำข้าว และหากเป็นรัฐบาลจะใช้ประกันรายได้ให้ประโยชน์ชาวนาได้มากกว่า แต่ใช้เงินน้อยกว่าจำนำข้าวของรัฐบาลชุดนี้" นายชวนนท์ กล่าว

สำหรับแถลงการณ์แสดงจุดยืนต่อโครงการรับจำนำข้าวของ ปชป.ระบุว่า

1.นโยบายรับจำนำข้าวตันละ 15,000 บาท และรับจำนำทุกเมล็ดนั้นนับเป็นนโยบายหลักที่พรรคเพื่อไทยใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งในปี 54 และขณะนี้การดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวนั้นได้ดำเนินการมาแล้วอย่างน้อย 4 ฤดูกาลผลิตในระยะเวลา 2 ปี และแม้พรรคประชาธิปัตย์จะมีจุดยืนไม่เห็นด้วยกับโครงการรับจำนำข้าวด้วยเหตุผลหลายประการ แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาลก็มีหน้าที่และความรับผิดชอบในการดำเนินการตามนโยบายและสัญญาประชาคมที่ได้ให้ไว้กับประชาชน คือต้องรับจำนำข้าวในราคาตันละ 15,000 บาททุกเมล็ดตลอดอายุการทำงานของรัฐบาล

2.รัฐบาลจะต้องทบทวนวิธีการช่วยเหลือชาวนาให้เกิดการรั่วไหลน้อยที่สุดและให้เงินภาษีของประชาชนถึงมือชาวนาให้ได้มากที่สุด เนื่องจากตัวเลขการขาดทุนสามฤดูการผลิตที่ผ่านมา โครงการรับจำนำข้าวมีผลการดำเนินการขาดทุนสูงถึง 220,967 ล้านบาท ไม่รวมภาระดอกเบี้ยอีกประมาณ 40,000 ล้านบาท ซึ่งสร้างภาระทางการคลังให้กับประเทศสูงเป็นประวัติการณ์ แต่ก็ยังไม่เลวร้ายเท่ากับเงินจำนวนนี้ไปถึงมือเกษตรกรเพียงไม่เกินร้อยละ 50 ดังที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรได้ประเมินว่าเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นเพียง 86,000 ล้านบาท คำถามก็คือเงินส่วนต่างที่เหลือนั้นไปตกอยู่ในมือของใคร

3.รัฐบาลควรหามาตรการช่วยเหลือชาวนารายย่อยที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการจำนำข้าว เนื่องจากในปัจจุบันมีกลุ่มนายทุนชาวนา หรือชาวนาที่ทำนาขนาดใหญ่ได้ประโยชน์เป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ชาวนารายย่อยกว่า 2 ล้านครัวเรือน หมดโอกาสที่จะเข้าร่วมโครงการ

4.นโยบายจำนำข้าวที่รัฐบาลหวังจะใช้เป็นเครื่องมือยกระดับคุณภาพชีวิตชาวนานั้น มีบทพิสูจน์แล้วว่าไม่ได้เป็นไปตามคาดหวัง เพราะตลอดสองปีที่ผ่านมาหนี้สินครัวเรือนของเกษตรกรพุ่งเป็นกว่า 1 แสนบาทต่อครัวเรือน ความสามารถในการชำระหนี้ลดลง โดยตัวเลขจากธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่าในปี 55 รายได้เกษตรกรติดลบถึงร้อยละ 4.9 ต่อเนื่องถึงช่วง 3 เดือนแรกของปี 56 ที่ติดลบอีกร้อยละ 2.2 จึงต้องทบทวนถึงความผิดพลาดและความล้มเหลวของนโยบายนี้เพื่อปรับปรุงแก้ไขให้การใช้จ่ายเงินแผ่นดินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

5.รัฐบาลต้องกำหนดมาตรการที่ชัดเจนเพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิตต่อไร่ พัฒนาคุณภาพข้าว พัฒนาระบบชลประทาน เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับชาวนาแบบยั่งยืน แทนการคิดอุดหนุนในเรื่องราคาปลายทางเพียงอย่างเดียว

6.รัฐบาลต้องมีคำตอบเกี่ยวกับการบริหารโครงการจำนำข้าวทั้งระบบให้กับคนไทยอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ เลิกใช้ข้ออ้างความลับทางราชการมาปกปิดการทุจริต รัฐบาลต้องเปิดเผยตัวเลขปริมาณข้าวที่เข้าสู่โครงการรับจำนำ ปริมาณข้าวที่ระบายออก ราคาที่จำหน่ายผ่านช่องทางต่างๆ ปริมาณข้าวที่คงเหลือในสต๊อก รวมทั้งคุณภาพข้าวในโกดังต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่ารัฐบาลดำเนินโครงการอย่างโปร่งใส

7.รัฐบาลต้องเปิดเผยเกี่ยวกับภาระทางการคลังที่แท้จริงจากโครงการจำนำข้าวว่ามีการใช้เงินไปแล้วเท่าไหร่ เนื่องจากในขณะนี้มีความชัดเจนว่าแค่ 3 ฤดูกาลผลิตใช้เงินไปแล้วไม่ต่ำกว่า 6.6 แสนล้านบาท ซึ่งเกินกรอบที่ ครม.มีมติกำหนดไว้ที่ 5 แสนล้านบาท นอกจากตัวเลขหนี้ที่ปรากฏเป็นหนี้สาธารณะอย่างชัดเจนแล้ว รัฐบาลต้องให้ ธ.ก.ส.เปิดเผยตัวเลขการใช้จ่ายโครงการจำนำข้าวทั้งหมดอย่างชัดเจนว่า หนี้ที่อยู่นอกระบบงบประมาณหรือที่เรียกว่าเป็นภาระการคลังซ่อนเร้นมีจำนวนเท่าใด เพื่อให้คนไทยได้รับทราบสถานะการเงินการคลังของประเทศที่ชัดเจน

8.รัฐบาลไม่มีสิทธินำประชาชนมาบังหน้าเพื่อแสวงหาผลประโยชน์และสร้างความเสียหายให้กับประเทศ ขณะเดียวกันระบอบประชาธิปไตยก็กำหนดหน้าที่ของฝ่ายค้านในการตรวจสอบฝ่ายบริหารเพื่อรักษาและปกป้องผลประโยชน์ให้กับประชาชน ซึ่งพรรคจะเดินหน้าทำการตรวจสอบรัฐบาลเพื่อป้องกันการฉ้อราษฎร์บังหลวง ดูแลการใช้จ่ายเงินภาษีของประชาชนให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง ด้วยการกำจัดเหลือบไรทางการเมืองที่คอยดูดเงินแผ่นดิน บนความทุกข์ยากของชาวนาและความเจ็บปวดของประเทศ

และขอเรียกร้องให้รัฐบาลยุติพฤติกรรมบิดเบือนความจริง ใส่ร้ายผู้อื่น ด้วยการสร้างขุดความเท็จขึ้นมากลบเกลื่อนความผิดของตัวเอง เพราะไม่ใช่วิสัยของพรรคการเมืองที่ดีตามวิถีทางในระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้หวังว่าพรรคเพื่อไทยจะช่วยยกระดับพัฒนาคุณภาพประชาธิปไตยในประเทศไทยด้วยการแข่งขันทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์ผ่านนโยบายของพรรคการเมือง ให้ความเคารพการทำหน้าที่ซึ่งกันและกัน เพราะทุกฝ่ายล้วนมีความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองตามบทบาทหน้าที่ของตัวเอง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ