กมธ.เงินกู้ 2 ล้านลบ.โยกเงินลดค่าใช้จ่ายไปเพิ่มในงบเผื่อขาด ฝ่ายค้านหวั่นเปิดช่องทุจริต

ข่าวการเมือง Wednesday July 10, 2013 15:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวราเทพ รัตนากร รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการปรับลดกรอบวงเงินค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่างๆ อาทิ ค่าจ้างที่ปรึกษา ค่าที่ดิน ค่าก่อสร้าง รวมวงเงิน 11,790 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.58 แต่มีการนำเงินไปเพิ่มในแผน ข. ซึ่งเป็นแผนงานส่งเสริมหรือสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ หรือวงเงินเผื่อเหลือเผื่อขาดจากเดิมที่ตั้งไว้ 9,261 ล้านบาท เป็น 21,051 ล้านบาท

ด้านคณะกรรมาธิการฯ ฝ่ายค้านแสดงความกังวลว่า ตัวเลขอาจคลาดเคลื่อนจากตัวเลขความเป็นจริง โดยเฉพาะค่าที่ดิน และค่าก่อสร้าง เพราะดำเนินการแล้วอาจมีการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดของโครงการได้ นอกจากนี้ การปรับลดต่างๆ ก็ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน พร้อมทั้งได้ตั้งข้อสังเกตว่างบประมาณที่ปรับลด 11,790 ล้านบาท แต่ถูกนำมารวมกับวงเงินคงเหลือจากร่าง พ.ร.บ.เดิมคือ 9,261 ล้านบาทนั้น เป็นงบที่ไม่มีการชี้แจงรายละเอียดการใช้เงินอย่างชัดเจน ซึ่งอาจเปิดช่องให้มีการทุจริตได้

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส. กทม พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องคงเงินจำนวน 21,051 ล้านบาท ไว้ในแผน ข. หรือเผื่อเหลือเผื่อขาดเพราะอายุของ พ.ร.บ.กู้เงินดังกล่าวมีอายุถึง 7 ปี หากมีความจำเป็นก็สามารถไปกำหนดเป็นงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ แต่กรรมาธิการเสียงข้างมากบางคนเห็นว่าประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนซึ่งอาจจะทำให้ค่าใช้จ่ายและต้นทุนสูงขึ้นจึงเห็นด้วยที่จะคงงบที่จะปรับลดไว้ในแผน ข. นายอรรถวิชช์จึงเสนอให้มีการลงมติ ตัดสิน แม้นายวราเทพ และนายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทยจะขอร้องไม่ให้มีการลงมติเพื่อเป็นไปตามประเพณีการประชุมกรรมาธิการที่ไม่นิยมลงมติโดยให้ไปแปรญัตติแล้วไปอภิปรายในสภาแทน แต่นายอรรถวิชช์ยังยืนยันให้ลงมติ โดยผลการลงมติปรากฎว่าเสียงส่วนใหญ่ 16 ต่อ 8 เสียง เห็นด้วยให้คงวงเงิน 21,051 ล้านบาทไว้ในวงเงินเผื่อเหลือเผื่อขาด

"การตัดลดงบประมาณลง 11,790 ล้านบาท แต่กลับไปเพิ่มในในแผน ข. ซึ่งเป็นงบเผื่อเหลือเผื่อขาด เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เพราะเท่ากับเป็นการตีเช็คเปล่า ไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะไม่ได้ระบุรายละเอียดไว้ และอาจมีการนำไปใช้ไม่ถูกทางและทุจริต ซึ่งจะทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปไม่ได้ ทั้งนี้เห็นว่ากรรมาธิการฯ ควรปรับลดงบประมาณลงอีก โดยเฉพาะค่าจ้างที่ปรึกษา ค่าเวนคืนที่ดิน และค่าก่อสร้าง"นายอรรถวิชญ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ