ทีม ศก.เพื่อไทย แนะ รบ.หนุนท่องเที่ยว-โซนนิ่งภาคเกษตร-โครงการน้ำ-โลจิสติกส์

ข่าวการเมือง Saturday July 13, 2013 15:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวว่า ทีมเศรษฐกิจพรรรคฯ เห็นว่าสิ่งสำคัญที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการในขณะนี้คือ การเดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันต้องปรับภาวะเศรษฐกิจให้อยู่ในภาวะสมดุลย์ด้วย ซึ่งมั่นใจว่ารัฐบาลจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด

เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกมีความผันผวน เช่น สหรัฐฯ อาจมีการกระเตื้องขึ้นบ้างเล็กน้อย ขณะที่จีนอยู่ในสภาวะชะลอตัว ซึ่งต้องยอมรับว่าประเทศไทยยังคงพึ่งพาการส่งออกประมาณ 70% ดังนั้นอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้อาจอยู่ที่ประมาณ 4.5%

รองโฆษกพรรคฯ กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลที่ได้ดำเนินไปในช่วง 2 ปีแรกถือว่ามาถูกทางแล้ว โดยต้องการสร้างรายได้ ลดรายจ่ายให้กับประชาชน เพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศและให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ

ขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้มีเม็ดเงินเข้าประเทศ หากการเมืองมีเสถียรภาพมั่นคง นักท่องเที่ยวก็จะเข้ามาในประเทศมากขึ้น มีการจับจ่ายใช้สอย โดยปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าในประเทศประมาณ 22 ล้านคน ขณะนี้ครึ่งปีมีนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วเกือบ 11 ล้านคน ซึ่งน่าจะเป็นไปตามเป้า หากย้อนกลับไปดูตัวเลขเมื่อปี 50 มีนักท่องเที่ยว 14 ล้านคน รายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 547,000 ล้านบาท, ปี 51 มีนักท่องเที่ยว 14 ล้านคน รายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 574,000 ล้านบาท, ปี 52 มีนักท่องเที่ยว 14 ล้านคน รายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 510,000 ล้านบาท, ปี 53 มีนักท่องเที่ยว 15 ล้านคน รายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 592,000 ล้านบาท, ปี 54 มีนักท่องเที่ยว 19 ล้านคน รายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 776,000 ล้านบาท และปี 55 มีนักท่องเที่ยว 22 ล้านคน รายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 983,000 ล้านบาท ดังนั้นควรสนับสนุนแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวให้มากขึ้น ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลกำลังทำงานเพื่อสนับสนุนเรื่องดังกล่าวต่อไป เพราะเป็นการสร้างรายได้เข้าประเทศ

ส่วนการดูแลเกษตรกรเรื่องต้นทุนการผลิตไม่ให้สูงเกินไป เช่น การใช้มาตรการภาษีอาหารสัตว์นำเข้า เพื่อไม่ให้ราคาสูงจนเกินไป หรือการเพิ่มจำนวนบัตรเครดิตเกษตรกรเพื่อใช้ในการจัดหาปัจจัยการผลิตและช่วยเหลือเกษตรกรโดยตรง

สำหรับการจัดโซนนิ่งการเกษตรถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ในต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้วจะใช้แนวทางนี้กันทั้งนั้นทำกันมานานแล้วเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้ปลูกพืชที่เหมาะสมกับสภาพดินฟ้าอากาศ ต้องทำเป็นแผนจริงจังแก้ปัญหาจากฐานรากเช่น ข้าว บางจังหวัดที่ดินดีก็อาจปลูกได้ถึง 3 ครั้งต่อปี แต่ถ้าสภาพดินฟ้าอากาศไม่เหมาะก็อาจปลูกพืชเศรษฐกิจอื่น เช่น อ้อยหรือมันสำปะหลัง ซึ่งพืชเหล่านี้ใช้ในการผลิตพลังงานทดแทนมีความจำเป็นมากในอนาคต

และการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ทั้งระบบตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ให้สมดุลย์ และครบวงจร โดยรัฐบาลจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ฉะนั้นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่าของรัฐบาลเป็นสิ่งจำเป็น ต้องทำแผนพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง 2 ล้านล้านบาท และแผนพัฒนาระบบน้ำเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งเชื่อว่าภาครัฐยินดีให้ตรวจสอบตามขั้นตอน รับฟังความคิดเห็น ตราบใดที่เป็นความเห็นที่เป็นหลักเหตุผล อยู่บนสมมติฐานแห่งความจริง ไม่ใช่อ้างเหตุผลการเมืองแล้วไม่เห็นด้วยทุกอย่างกับสิ่งที่ประชาชนจะได้รับประโยชน์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ