โดยสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดปราจีนบุรีและสระแก้วหากไม่มีฝนตกลงเพิ่มขึ้นภายใน 3-4 วัน ปริมาณน้ำที่ท่วมอยู่จะลดลง และเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 10 วัน เนื่องจากขณะนี้สามารถระบายน้ำได้ 70 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน จากปริมาณน้ำที่มีอยู่ 750 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่จังหวัดภาคกลาง อาทิ พระนครศรีอยุธยา ชัยนาท อ่างทอง ระดับน้ำเริ่มลดลง เนื่องจากมีการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ลดลง ยกเว้นพื้นที่ลุ่มที่ยังมีน้ำค้างทุ่งหลงเหลืออยู่ อาทิ อำเภอโผงเผง จังหวัดอ่างทอง และอำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ส่วนสถานการณ์ที่จังหวัดปทุมธานีนั้นช่วง 2 วันจากนี้จะมีปริมาณในคลองรังสิตประยูรศักดิ์เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากจะมีน้ำทะเลหนุนสูง และการระบายน้ำออกสู่แม่น้ำท่าจีนเป็นไปด้วยความลำบาก อย่างไรก็ตามเชื่อว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 2 สัปดาห์ ขณะที่พื้นที่กรุงเทพมหานครจะต้องระมัดระวังปัญหาน้ำท่วมขังหากมีน้ำทะเลหนุนสูงและฝนที่จะตกลงมามาก แต่ยืนยัน กทม.จะไม่เผชิญกับปริมาณน้ำหลากจากภาคเหนือและภาคตะวันออกแน่นอน
นายปลอดประสพ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่ดีที่สุดคือการก่อสร้างเขื่อนล้อมเมือง และสร้างคลองผันน้ำ รวมทั้งทำคลองลัดน้ำเพื่อจะระบายน้ำออกจากพื้นที่เสี่ยงได้เร็วขึ้น โดยส่วนตัวพร้อมหารือร่วมกับนายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ผู้ต่อต้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการนัดหมายกันเป็นทางการ