นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีการนำประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 มาโจมตีรัฐบาล ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลที่จะนำมาเล่นงานรัฐบาล โดยการที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศรอเวลา 18.00 น. วันที่ 11 พ.ย.นั้น ก็เพราะจะรอผลการพิจารณาคำตัดสินของศาลโลกกรณีเขาพระวิหารก่อน เพื่อจะได้นำมาเชื่อมโยงกับมาตรา 190 ที่ผ่านการพิจารณาของวุฒิสภาไปแล้ว
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สถานการณ์ชุมนุมประท้วงขณะนี้น่าจะคลี่คลายลงได้ระดับหนึ่ง เพราะร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่เป็นเงื่อนไขในการชุมนุมประท้วงของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลได้ถูกตีตกไปแล้ว โดยทั้งพรรคเพื่อไทย รัฐสภา และวุฒิสภา ได้แสดงจุดยืนเดียวกันที่จะยุติการผลักดันกฎหมาย และได้ถอนพ.ร.บ.ปรองดอง 6 ฉบับออกแล้ว และวุฒิสภา ได้เรียกประชุมเร่งด่วน เพื่อจะไม่รับหลักการพ.ร.บ.นิรโทษกรรม เท่ากับว่าประชาชนได้บรรลุเจตนารมย์แล้ว ควรจะยุติการชุมนุม แต่ถ้าจะสร้างเงื่อนไขเพิ่มเป็นการชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาล ก็จะกลายเป็นวาระการเมือง
"ถ้าการชุมนุมยังคงยืดเยื้อและสร้างเงื่อนไขเพิ่มเติมจากเดิม จะกลายเป็นการสร้างวาระทางการเมือง ประชาชนควรพิจารณาให้ดี และน่าจะทำความเข้าใจกับสิ่งที่รัฐบาลได้ประกาศไปแล้ว ซึ่งรัฐบาลจะทำความเข้าใจกับประชาชน และใช้วิธีเจรจาในการสร้างความเข้าใจกับทุกฝ่าย"นายณัฐวุฒิ กล่าว
อย่างไรก็ตาม หากการชุมนุมยืดเยื้อต่อไปอีก รัฐบาลได้เตรียมแผนรับมือ และแนวทางแก้ปัญหาไว้แล้วด้วยวิธีการแบบสากล ยืนยันว่า จนถึงขณะนี้รัฐบาลน่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และคงจะไม่ยุบสภา หรือลาออกก่อนอย่างแน่นอน